วันที่ 31 มี.ค.2566 ที่ศูนย์อำนวยความสะดวกจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ของ ตำรวจภูธรภาค 3 จังหวัดนครราชสีมา พลตำรวจตรี ฐากูร นัทธีศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจรตำรวจภูธรภาค 3 เป็น ประธานการประชุม บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย เพื่อเตรียมความพร้อมในการคอยอำนวยความสะดวกการจราจร การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566
โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 แขวงทางหลวงเขต 1, 2 และ 3, สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สรรพสามิต ภาคที่ 3 ขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยจังหวัดนครราชสีมา และหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 รวมทั้ง 8 จังหวัด (ภาคอีสานตอนล่าง) และ ผู้แทนหน่วยงานตำรวจในเขตพื้นที่รอยต่อระหว่างภาค 3 กับ ตำรวจภูธรภาค 1, 2 และ 4 เข้าร่วม
เพื่อประชุมหารือและกำหนดมาตรการปฏิบัติ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 ที่จะมีวันหยุดราชการต่อเนื่อง 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 – 17 เม.ย. 2566 โดยขอความร่วมมือให้ทุกหน่วยงานได้เตรียมความพร้อม ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ ยานพาหนะ วัสดุอุปกรณ์ และมาตรการปฏิบัติ ในการรองรับการเดินทางของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางออกต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลฯ ให้มีความสะดวก และมีความปลอดภัย ในการเดินทางให้มากที่สุด
ในส่วนตำรวจภูธรภาค 3 ได้เน้นย้ำและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ ได้นำแนวทางและมาตรการต่างๆ ที่ได้จากการถอดบทเรียน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2565 และเทศกาลปีใหม่ 2566 มาใช้เป็นมาตรการในการดู และอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาการจราจร รวมทั้งการป้องกันและอดอุบัติเหตุจราจรทางถนน โดยให้มีการร่วมมือและประสานการปฏิบัติ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดูแลอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาการจราจร ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเน้นย้ำการปฏิบัติ ดังนี้
1. ให้ทุกพื้นที่จัดระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยดูแลประจำจุด เพื่อคอยอำนวยความสะดวก และแก้ไขปัญหาการจราจรในเส้นทาง ที่มักเกิดปัญหาการจราจรหนาแน่น ติดขัดสะสม ชะลอตัว ในจุดสำคัญ ๆ ให้มากที่สุด โดยให้หลีกเลี่ยงการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประจำจุดบริการ ดังเช่นในห้วงเทศกาลที่ผ่านมา ตามนโยบายของ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
2. ให้ผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และผู้กำกับการหัวหน้าสถานีตำรวจ ใช้มาตรการบริหารและจัดการจราจร ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพปัญหาการจราจร ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เน้นการเร่งระบายและแก้ไขปัญหาการจราจร ในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด/ภาค ที่เป็นทางขึ้นลงเนินลาดชัน ทางร่วมทางแยก ทางต่างระดับ พื้นที่คอขวด หน้าสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง จุดซ่อมสร้างฯ ที่ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น ที่อาจจะกระทบกับปัญหาการจราจรในเส้นทาง จะต้องคืนพื้นผิวการจราจร ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 4 เมษายน 2566 นี้
3. ให้มีการใช้มาตรการ การเปิดใช้ช่องทางพิเศษ (Reversible lane) การเปิดใช้เส้นทางพิเศษ มอเตอร์เวย์ (M 6) ดังเช่นในช่วงเทศกาลที่ผ่านมา รวมถึงการใช้มาตรการประกาศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการหยุดการเดินรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป บนถนนในเส้นทางถนนมิตรภาพ(ทล.2) และ เส้นทางหมายเลข 304 (กบินทร์บุรี – วังน้ำเขียว) ในบางช่วงบางตอน เพื่อมิให้เกิดปัญหารถบรรทุกขนาดใหญ่ กีดขวางการจราจรในการเดินทางของประชาชนโดยทั่วไปในช่วงเทศกาล และถือเป็นการแก้ไขปัญหา การเร่งการระบายการจราจร บนถนนมิตรภาพ (ทล.2) ในช่วงพื้นที่เขตลำตะคลอง-ต่างระดับอำเภอสีคิ้ว
4. สำหรับในมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุจราจรทางถนน เน้นย้ำให้ทุกหน่วย จะต้องดำเนินการมาตรการ ลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุจราจรทางถนนในพื้นที่ให้ได้อย่างน้อย 5% ตามเป้าหมายและนโยบายของรัฐบาล ทั้งการใช้มาตรการบูรณาการปฏิบัติของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ระดับจังหวัด อำเภอ ลงถึง ในระดับตำบล หมู่บ้าน ชุมชน และหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ด้วยการให้ทุกหมู่บ้านจัดตั้ง “ด่านชุมชน” ให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน และใช้มาตรการควบคุมการจำหน่ายสุรา และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามพระราชบัญญัติเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเคร่งครัด
โดยในช่วงวันที่ 1 มีนาคม 2566 ถึง วันที่ 3 เมษายน 2566 ได้เริ่มใช้มาตรการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างความร่วมมือให้ประชาชนได้ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎจราจร ควบคู่ไปกับการใช้มาตรการการป้องกันจุดเสี่ยง จุดอันตรายบนเส้นทางการจราจร และการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างจริงจัง ในช่วงการควบคุมเข้มข้น 7 วัน (11 – 17 เม.ย.66) โดยเฉพาะในการกระทำความผิดใน 10 ข้อหาหลัก และในฐานความผิดที่เป็นสาเหตุหลักให้เกิดอุบัติเหตุจราจรทางถนน อย่างเข้มงวดและจริงจังทุกราย อาทิเช่น การจับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การขับรถประมาทตัดหน้ากระชั้นชิด ขับรถในขณะเมาสุรา เป็นต้น
ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 ที่จะถึงนี้ ตำรวจภูธรภาค 3 ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการคอยอำนวยความสะดวก และแก้ปัญหาด้านการจราจร การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งสิ้น จำนวน 6,026 นาย
และในการนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้เน้นย้ำ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ปฏิบัติหน้าที่ ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายในทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อคอยดูแลอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาการจราจร ในการเดินทางของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่
ทั้งการเปิดช่องทางพิเศษในช่วงที่มีการจราจรหนาแน่น การกำหนดห้ามรถบรรทุกวิ่งช่วงเทศกาล ฯ และกรมทางหลวงเปิดให้ใช้ทางหลวงมอเตอร์เวย์ M6 จาก อ.ปากช่อง – อ.สีคิ้ว – อ.ขามทะเลสอ รวมระยะทาง 64 กม. เพื่อเร่งระบายรถที่จะเดินทางไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 12 – 14 เม.ย.2566 เริ่มจาก กม.65 ถ.มิตรภาพ เบี่ยงออกซ้ายเข้า M6 ผู้ที่จะเดินทางไปชัยภูมิ จะใช้ทางออกเชื่อมต่อ ทล.201 ที่ต่างระดับสีคิ้ว ส่วนรถที่จะมุ่งหน้าไปที่จังหวัดขอนแก่น จะใช้ทางออกเชื่อมต่อ ทล.204 ที่ต่างระดับขามทะเลสอ รวมระยะทาง 64 กม. และ ส่วนเที่ยวกลับเข้ากรุงเทพมหานคร จะเปิดใช้ช่องทางพิเศษและทางหลวงมอเตอร์เวย์ M6 ในวันที่ 15-18 เม.ย.2565
จึงขอความร่วมมือประชาชน และผู้ขับขี่ยานพาหนะ ได้มีการเตรียมตัวและวางแผนการเดินทางให้พร้อมสำหรับที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั้งไปและกลับ และขอความร่วมมือผู้ขับขี่รถ และประชาชนได้ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎจราจร ง่วงจอดพัก ไม่ขับรถเร็ว ไม่ขับรถขณะเมา และให้มีการฉลองเทศกาลอย่างมีสติ ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อร่วมกันในการป้องกันอุบัติเหตุ หากพี่น้องประชาชนต้องการสอบถามสภาพการจราจร เส้นทางเลี่ยง ขอความช่วยเหลือสามารถติดต่อ 191, 1599 หรือ ตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชม.