มีผลตั้งแต่ 22 ส.ค. 2566 เป็นต้นไป แทนคนเดิมที่ครบวาระ
โดยสามารถเฉือนเอาชนะคู่แข่งที่ลงสมัครด้วยอีก 3 ราย และเป็นรองผู้ว่าการฯ กฟผ. ด้วยกันทั้งหมดมาได้ ผ่านขั้นตอนทั้งคณะกรรมการสรรหา ผ่านขึ้นบอร์ดบริหารกฟผ.ที่มีปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ก่อนส่งให้กระทรวงพลังงานนำเข้าครม.ดังกล่าว
เทพรัตน์ เทพพิทักษ์ เกิดวันที่ 31 ก.ค. 2508 ปัจจุบันอายุ 57 ปี
จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และไปจบปริญญาโท วิศวกรรมศาสตร์ สาขา Electricity Industry
Management and Technology มหาวิทยาลัยสแตรธไคลด์ จากสกอตแลนด์
ทำงานและมีประสบการณ์ด้านเทคนิควิศวกรรม การพัฒนาและบริหารจัดการโรงไฟฟ้ามาอย่างยาวนาน เติบโตจนขึ้นสู่ระดับบริหาร เป็นผู้ช่วยผู้ว่าการพลังงานหมุนเวียนและพลังงานใหม่ กฟผ. ช่วงปี 2560- 2561
ก่อนขยับเป็นรองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน กฟผ. และลงสมัครชิงผู้ว่าการ กฟผ. เมื่อปี 2563 แต่พลาดตำแหน่ง และหมุนไปเป็นรองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ กฟผ.
1 ก.ค.2563 เทพรัตน์ เข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของเอ็กโก กรุ๊ป บริษัทลูกของกฟผ. อีกตำแหน่ง ตามที่บอร์ดบริษัทฯ มีมติเห็นชอบไปก่อนหน้า
ครั้งนี้ไม่พลาดขึ้นนั่งผู้นำเต็มตัว รับไม้ต่อภารกิจกฟผ.ยุคนํ้ามันแพง ก๊าซขาด แถมอากาศร้อน ที่คนร้องระงมเรื่องค่าไฟฟ้าแพงกันทั้งเมือง ขณะที่กฟผ.ก็ยังหลังแอ่นแบกหนี้ค่าเชื้อเพลิงกว่าแสนล้านบาท
ท้าทายฝีมือที่ต้องบริหารทั้งเรื่องไฟฟ้าให้ดีมีใช้ไม่ตกไม่ดับ ทั้งบริหารอารมณ์ชาวบ้านผู้ใช้ไฟฟ้า ให้เข้าใจ เห็นใจและพร้อมจ่ายไม่ขาด ให้กฟผ.มีกำลังไปบริหารการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในอนาคต
เทพรัตน์ เทพพิทักษ์
ผู้ว่าการ กฟผ.คนใหม่
คอลัมน์สปอตไลต์ หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,855 วันที่ 7-10 พฤษภาคม พ.ศ.2566