วิจัยRDFคุณภาพ นวัตกรรมต้นแบบ‘ขยะทองคำ’

19 พ.ค. 2566 | 08:33 น.
อัปเดตล่าสุด :19 พ.ค. 2566 | 08:43 น.

เชื้อเพลิงจากขยะเป็นแนวทางหนึ่งแก้ปัญหาขยะล้นเมือง แต่การปรับปรุงขยะมาเป็นเชื้อเพลิง หรือ RDF มีปัญหาคือ ขยะเมืองไทยมีสัดส่วนขยะสดมาก

ความชื้นสูง คุณภาพเชื้อเพลิงขยะไม่สมํ่าเสมอสำหรับโรงไฟฟ้าหรือโรงงานอุตสาหกรรม

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ให้การสนับสนุนทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) มีผศ.ดร.คมศิลป์ วังยาว เป็นหัวหน้าทีม

เพื่อพัฒนากระบวนการทำแห้งชีวภาพ เพื่อการปรับปรุงคุณภาพเชื้อเพลิงขยะ ตั้งเป้าลดความชื้นในขยะมูลฝอย ให้ไม่เกิน 30 % ขณะเดียวกันเพิ่มความร้อนให้เชื้อเพลิงมูลฝอย ให้มีค่าความร้อนมากกว่า 4,000 Kcal/kg โดยใช้ระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน

ผศ.ดร.คมศิลป์ วังยาว เป็นนักวิจัยประจำบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม JGSEEมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี (มจธ.)

วิจัยRDFคุณภาพ นวัตกรรมต้นแบบ‘ขยะทองคำ’

เคยได้รับทุนวิจัยจากวช. ในโครงการ“การพัฒนาศักยภาพการผลิตพลังงานจากธุรกิจเหมืองบ่อขยะ” พัฒนาแนวทางการประเมินเชื้อเพลิงขยะ เพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม

เนื่องจากในขยะมีนำไปฝังกลบ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณครึ่งหนึ่งจะย่อยสลายไป ซึ่งสามารถคัดแยกเพื่อนำกลบทับขยะได้ อีกประมาณครึ่งหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลาสติก มีภาคเอกชนสนใจลงทุนรื้อร่อนนำไปขายเป็นเชื้อเพลิงขยะ (Refuse Derived Fuel-RDF)

ครั้งนี้เป็นต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีลดความชื้นด้วยจุลินทรีย์ ร่วมกับThermodynamic ด้วยวิธีทางกายภาพ ศึกษาถึงปริมาณและรูปแบบการเติมอากาศเข้าไปในระบบ ให้ได้ RDF ที่มีคุณภาพตามเป้าหมายที่วางไว้

ผศ.ดร.คมศิลป์ชี้ว่า เพื่อเป็นต้นแบบโครงการบริหารจัดการขยะ โดยนำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิง RDF ที่มีต้นทุนไม่สูง สามารถดำเนินการและแก้ปัญหาขยะให้กับชุมชนได้จริง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดปัญหาด้าน
สิ่งแวดล้อมจากการกำจัดขยะแบบไม่ถูกหลักสุขาภิบาลและขยะล้นเมือง

หากมีการขยายผลงานวิจัยนี้ที่สามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์ในอนาคต จะเป็นนวัตกรรมต้นแบบ สำหรับเทคโนโลยีการผลิตเชื้อเพลิงคุณภาพสูงจากขยะมูลฝอยของประเทศไทย ที่สามารถใช้งานได้จริง ทั้งรัฐและเอกชนไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศต่อไป

เปลี่ยนขยะให้กลายเป็นมี “คุณค่า”