รายงานในวารสารเนเจอร์ (Nature) เผยแพร่ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ระบุว่า อุณหภูมิโลก ที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1 องศาเซลเซียส จะเพิ่มความหนาแน่นของ ฝนตกหนัก ขึ้น 15% ที่ระดับความสูงมากกว่า 2,000 เมตร และความสูงที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 1,000 เมตร จะเพิ่ม ปริมาณน้ำฝน อีก 1% หรืออีกนัยหนึ่งคือ หาก โลกร้อน ขึ้น 3 องศาเซลเซียส เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม มันจะมีความเป็นไปได้ของการเกิดอุทกภัยที่ “รุนแรงกว่าเดิม” เกือบครึ่งหนึ่ง
นายโมฮัมเหม็ด ออมบาดี นักวิจัยและผู้เขียนนำของรายงานการวิจัยชิ้นนี้ กล่าวเตือนว่า การค้นพบดังกล่าว ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐาน ที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ทนต่อเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรง ขณะที่รายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ (ไอพีซีซี) ระบุเสริมว่า จากแนวโน้มในปัจจุบัน โลกจะร้อนขึ้น 2.8 องศาเซลเซียสภายในสิ้นศตวรรษนี้
งานศึกษาชิ้นใหม่ ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา และการประมาณการตามแบบจำลองสภาพอากาศ พบว่า มีปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ๆ 2 ปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการมีฝนตกหนักบนพื้นที่สูงในโลกที่อุณหภูมิร้อนขึ้น
พื้นที่ภูเขาและที่ราบน้ำท่วมถึงที่อยู่ติดกัน มีแนวโน้มที่จะประสบกับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากฝนตกหนัก ยกตัวอย่างบริเวณในและรอบ ๆ เทือกเขาหิมาลัย และเทือกเขาฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ควรเตรียมแผนการปรับตัวเพื่อรับมือ
“พวกเราจำเป็นต้องพิจารณาถึงการเพิ่มขึ้นของเหตุการณ์ฝนตกหนัก ในการออกแบบและสร้างเขื่อน ทางหลวง ทางรถไฟ และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ หากเราต้องการความมั่นใจว่า โครงสร้างพื้นฐานเหล่านั้นจะคงอยู่อย่างยั่งยืนในสภาพอากาศของโลกที่ร้อนขึ้น ๆ เรื่อยๆ” นายออมบาดี นักวิจัยผู้เขียนรายงานชิ้นนี้กล่าว
ข้อมูลอ้างอิง