จากกรณีเกิดเหตุสะพานยกระดับอ่อนนุช ลาดกระบัง ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มลงมา บริเวณถนนหลวงแพ่ง ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบ รวมถึงไม่สามารถใช้สัญจรผ่านไปมาได้นั้น ความคืบหน้าในการรื้อโครงสร้างเหล็ก หรือ รอนเชอร์ ตลอดทั้งวันนี้นั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถรื้อโครงเหล็ก ออกไปแล้วทั้งหมด 5ชิ้น และอยู่ระหว่างการดำเนินการชิ้นที่ 6 โดย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อธิบายว่า แผนการรื้อถอนจะตัดแบ่งโครงการที่มีทั้งหมด 14 ชิ้น
ออกเป็นทีละชิ้นและเคลื่อนย้าย แบ่งเป็น โครงเหล็กชิ้นใหญ่น้ำหนัก 30 ตัน จำนวน 10 ชิ้น และโครงเหล็กชิ้นเล็กน้ำหนัก 7 ตัน จำนวน 4ชิ้น วันนี้นำออกไปทั้งหมด 5 ชิ้น คือ ชิ้นใหญ่ 2 ชิ้นและชิ้นเล็ก 3 ชิ้น และอยู่ระหว่างการดำเนินการชิ้นที่ 6
ทั้งนี้ อุปสรรคสำคัญการเคลื่อนย้ายโครงเหล็ก คือ สถานที่คับแคบ เครนขนาดใหญ่เข้าพื้นที่ได้จำกัดจึงต้องเอาชิ้นที่เอาออกง่าย ออกก่อน แล้วค่อยขยับเครนเข้ามา
โดยช่วงที่ขนย้ายโครงสร้างเหล็กออกจะต้องปิดการจราจรเป็นช่วง ๆ ซึ่งต้องบอกว่า โครงเหล็กทั้ง 14 ชิ้น คาดว่า จะต้องใช้เวลาอีก 2 วัน และมีแผนจะต้องเปิดการจราจรได้อย่างน้อย 1 เลนในวันศุกร์ที่14 ก.ค.นี้
และวันนี้หากมีการยกโครงเหล็กชิ้นที่ 6 ออกได้ก็จะทำให้เครนเข้ามาไม่ถึงเำราะมีขนาดใหญ่ ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้จึงจะต้องทุบตอม่อ ที่อยู่ตรงกลางออกแต่จะต้องเก็บภาพไว้เป็นหลักฐานและเป็นข้อมูลก่อนทุบ
รวมถึงในวันพรุ่งนี้ ทีมจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์จะเข้ามาร่วมตรวจสอบ โดยเอาเครื่องมือโดรนเรดาห์มาบินสแกน เก็บระยะต่างๆ และทีมงานเดินดูเก็บข้อมูลด้วยสายตามาประกอบการหาสาเหตุที่เกิดขึ้น
ส่วนการหารือว่า จะมีการทุบสะพานดังกล่าวทิ้งหรือไม่หลังมีการเคลื่อนย้ายเศษซากที่พังถล่มลงมาแล้วส่วนนี้ต้องรอการตรวจสอบว่าส่วนไหนสามารถใช้งานได้และสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากส่วนใดก็จะนำไปพิจารณาตามหลักวิศวกรรมอีกครั้ง
ทั้งนี้ ยืนยันว่า โครงสร้างของตอหม้อไม่ได้มีปัญหาและแข็งแรงส่วนที่ก่อสร้างมาแล้วก็แข็งแรงไม่มีปัญหาเช่นกัน จะมีปัญหาคือช่วงที่ถล่มลงมาเท่านั้น
สำหรับการรื้อตัวโครงสร้างปูนที่ถล่มลงมาขนาดความยาวเกือบ 40เมตร ที่อยู่ตรงเกาะกลางนั้นค่ดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วันในการเคลียร์พื้นที่และเคลื่อนย้ายซึ่งส่วนนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการจราจร
ด้านนายชัชญา ขำจันทร์ ผู้อำนวยการเขตลาดกระบังเปิดเผยว่าในส่วนของบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายเป็นอาคารพาณิชย์อยู่กันสี่ครอบครัวมีสมาชิกทั้งหมด 10 คนได้มีการหาบ้านเช่าเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยทางบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบ