กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งเตือนประชาชน เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 18-21 กรกฎาคม 2566 โดยประกาศ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 10/2566 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
ทั้งนี้ ตามประกาศ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 9/2566 เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ประกอบกับ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศ เรื่อง พายุดีเปรสชัน ฉบับที่ 2 พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน
มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำและขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 18 - 19 กรกฎาคม 2566 และในช่วงวันที่ 16-20 กรกฎาคม 2566 ร่องมรสุมกำลังแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง
ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้
ทั้งนี้ กอนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณต้นน้ำจากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี
พบพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน
ในช่วงวันที่ 18 - 21 กรกฎาคม 2566 เพิ่มเติมจากประกาศ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 9/2566 ดังนี้
ภาคเหนือ
1.จังหวัดเชียงใหม่
2.จังหวัดน่าน
3.จังหวัดอุตรดิตถ์
4.จังหวัดพิษณุโลก
5.จังหวัดเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
6.จังหวัดหนองคาย
7.จังหวัดบึงกาฬ
8.จังหวัดสกลนคร
9.จังหวัดเลย
10.จังหวัดหนองบัวลำภู
11.จังหวัดอุดรธานี
12.จังหวัดนครพนม
13.จังหวัดมุกดาหาร
14.จังหวัดชัยภูมิ
15.จังหวัดอุบลราชธานี
16.จังหวัดนครราชสีมา
17.จังหวัดบุรีรัมย์
18.จังหวัดสุรินทร์
19.จังหวัดศรีสะเกษ
ภาคกลาง
20.จังหวัดกาญจนบุรี
21.จังหวัดสระบุรี
ภาคตะวันออก
22.จังหวัดจันทบุรี
23.จังหวัดตราด
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน
2. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำ และบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที