วันนี้29 สิงหาคม 2566 เวลา 9.30 นาฬิกา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 132/2566 ระหว่างบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด โจทก์ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ที่ 1 กับพวกรวม 30 คน จำเลย ศาลนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษามีนายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ และทนายโจทก์ มาศาล โจทก์แถลงว่า โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางโดยฟ้องการประปานครหลวง ผู้ถูกฟ้องที่ 1 คณะกรรมการฟ้องการประปานครหลวง ผู้ถูกฟ้องที่ 2 และคณะกรรมการพิจารณาผล
ผู้ถูกฟ้องที่ 3 และศาลปกครองกลางมีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา ลงวันที่ 24 มีนาคม 2566 ให้ทุเลาการบังคับตามประกาศการประปานครหลวง ลงวันที่ 7 มีนาคม 2566 เรื่อง ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา ประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่ โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
พร้อมงานที่เกี่ยวข้อง สัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ประกาศให้ ITA Consortium เป็นผู้ชนะการเสนอราคาไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง เป็นอย่างอื่น เกี่ยวกับความเสียหาย โจทก์แถลงเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันยื่นซองประกวดราคาถึง วันที่ประกาศผลการประกวดราคา โจทก์เสียหายในส่วนค่าดำเนินการ การจัดเตรียมงานต่าง ๆ และข้อมูลเอกสารเกี่ยวกับโครงการและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการประมูลงาน จนถึงขั้นตอน
ผลการพิจารณาอุทธรณ์ของกรมบัญชีกลางว่าอุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น เพื่อเตรียมการทำงานตาม โครงการประมาณ 100,000,000 บาท ศาลได้ตรวจคำฟ้องและเอกสารท้ายฟ้องของโจทก์และรายงานเจ้าพนักงานคดี ชั้นตรวจฟ้องฉบับลงวันที่ 21 สิงหาคม 2566 แล้ว เห็นว่าคำฟ้องยังไม่ได้ระบุข้อเท็จจริงรายละเอียด และพฤติการณ์ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามสิบ พร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐาน ให้ชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ ตามมาตรา 15 แห่ง พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559
จึงมีคำสั่งให้โจทก์แก้ฟ้อง ให้ถูกต้องโดยระบุข้อเท็จจริงและรายละเอียดตัวบุคคล เอกสาร หรือวัตถุตามที่โจทก์กล่าวอ้างว่า จำเลยทั้งสามสิบกระทำผิดตามฟ้อง พร้อมเสนอหรือชี้ช่องพยานหลักฐานที่จะสนับสนุนข้อเท็จจริง ตามฟ้องโจทก์ รวมถึงพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง
ดังต่อไปนี้ ข้อ 1. ให้โจทก์บรรยายฟ้องเพิ่มเติมถึงวัน เวลาที่จำเลยแต่ละคนได้รับแต่งตั้ง ให้เป็นกรรมการการประปานครหลวง และให้เป็นกรรมการพิจารณาผลประกวดราคาจ้างก่อสร้างงาน ก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) พร้อมแนบคำสั่งแต่งตั้ง
ข้อ 2. โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามสิบทำนองว่า ไม่ดำเนินการพิจารณาผลประกวดราคา จ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ให้ถูกต้องตามวิธีประกวด ราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) จึงให้บรรยายฟ้องเพิ่มเติมถึงหลักเกณฑ์ ขั้นตอนการประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ที่ถูกต้อง พร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานให้ชัดเจน
ข้อ 3. ให้โจทก์บรรยายฟ้องในข้อ 2 โดยเรียงตามลำดับวัน เวลา และบรรยาย การกระทำความผิดของจำเลยแต่ละคนในฟ้องข้อที่ 2.2 ถึง 2.5 ให้ชัดเจนว่า จำเลยแต่ละคน กระทำการใดอันเป็นความผิด ผู้ใดเป็นตัวการ และผู้ใดเป็นสนับสนุน และสรุปให้ชัดเจนว่าในแต่ละกรรมจำเลยกระทำความผิดตามกฎหมายใด และมีคำขอท้ายฟ้องให้ถูกต้อง พร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐาน ให้ชัดเจน
ข้อ 4. เพื่อมิให้เป็นการฟ้องคดีผิดไปจากบุคคลที่โจทก์ประสงค์ฟ้องคดีนี้ ให้โจทก์ส่งสำเนาทะเบียนราษฎร์ของจำเลยทั้งสามสิบให้ครบถ้วน โดยแนบมาพร้อมกับคำฟ้อง ฉบับที่แก้ไขใหม่ต่อศาล
ข้อ 5. ปัจจุบันโครงการก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำ มหาสวัสดิ์อยู่ในขั้นตอนใด มีผู้ใดฟ้องคดีต่อศาลใดหรือไม่ เห็นสมควรให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องภายใน 30 วันนับแต่วันนี้ (วันที่ 28 กันยายน 2566) หากไม่ดำเนินการในกำหนดเวลา ศาลจะมีคำสั่งตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา 6 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 วรรคสอง ต่อไป
เพื่อสะดวกแก่การพิจารณา เห็นควรให้โจทก์ระบุให้ชัดเจนในคำร้องขอแก้ไขฟ้องว่า แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องไว้ในบรรทัดใดหน้าใด และจัดทำคำฟ้องฉบับสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ที่แก้ไขแล้วมายื่นใหม่เพื่อใช้แทนคำฟ้องฉบับเดิมด้วย เพื่อให้ได้ความชัดแจ้งในข้อเท็จจริงแห่งคดีประกอบการตรวจคำฟ้อง เห็นควร มีหนังสือพร้อมสำเนาคำฟ้องและเอกสารท้ายคำฟ้อง
ถึงกรมบัญชีกลางและการประปานครหลวง ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ดังนี้ ให้มีหนังสือถึงกรมบัญชีกลางโดยชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้ 1. เหตุใดกรมบัญชีกลางต้องเป็นผู้สรุปข้อมูลการเสนอราคาประกวดราคาจ้าง ก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตร
ต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) อาศัยอำนาจตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับใด 2. ขั้นตอน หลักเกณฑ์ การพิจารณาผลการประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้าง ขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่ เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
3. ตามที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลางเห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น และมีผลต่อการจัดซื้อจัดจ้างอย่างมีนัยสำคัญ จึงให้การประปานครหลวง กลับไปดำเนินการในขั้นตอนการพิจารณาผลการเสนอราคาของผู้ยื่นข้อเสนอให้ถูกต้องต่อไป ตามมาตรา 119 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
ตามหนังสือกรมบัญชีกลางด่วนที่สุด ที่ กค (กอร) 0405.5/14496 ลงวันที่ 21 เมษายน 2565 นั้น มีความหมายให้การประปานครหลวงดำเนินการอย่างไร และตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น การประปานครหลวงได้ดำเนินการตามที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนกรมบัญชีกลาง แจ้งผลหรือไม่อย่างไร
4. ในกรณีที่เอกสารการประกวดราคาไม่ชัดเจน ไม่ครบถ้วน จนเป็นเหตุให้ ผู้เข้าประกวดราคายื่นเอกสารประกวดราคาไม่ถูกต้อง ผู้พิจารณาผลประกวดราคาจะต้องดำเนินการ อย่างไร มีอำนาจตัดสิทธิผู้เข้าประกวดราคาที่ยื่นเอกสารไม่ถูกต้องอันเนื่องมาจากเอกสารการประกวด ราคาไม่ชัดเจน ไม่ครบถ้วนหรือไม่ อย่างไร
5. ในกรณีที่ประกาศประกวดราคา กับเอกสารประกวดราคากำหนดเงื่อนไขใน การยื่นเอกสารที่ใช้ในการประกวดราคาแตกต่างกัน ผู้เข้าประกวดราคาและกรรมการพิจารณาผล การประกวดราคาต้องถือตามประกาศประกวดราคาหรือเอกสารประกวดราคา
6. ในกรณีที่มีการอุทธรณ์คำสั่งอันเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างต่อผู้ออกคำสั่ง หากผู้ออกคำสั่งเห็นว่า อุทธรณ์ไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างแลละการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 114 มาตรา 115 มาตรา 116 ผู้ออกคำสั่งจะไม่ส่งอุทธรณ์ไปยัง คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลางได้หรือไม่เพราะเหตุใด และผู้ออกคำสั่ง คือการประปานครหลวงหรือผู้ใด ให้มีหนังสือถึงการประปานครหลวง โดยชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1. เหตุใดกรมบัญชีกลางต้องเป็นผู้สรุปข้อมูลการเสนอราคาประกวดราคา จ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีการประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) มีผลเชื่อมโยงอย่างไรกับกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา
2. ขั้นตอน หลักเกณฑ์ การพิจารณาผลการประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้าง ขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่ เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
3. หากโจทก์ยื่นเอกสารการประกวดราคาไม่ถูกต้องครบถ้วนและยื่นข้อเสนอ ทางเทคนิคไม่เป็นตามที่ประกาศประกวดราคา มีขั้นตอนการตรวจคุณสมบัติในข้อนี้ในขั้นตอนใด และเหตุใดการประปานครหลวงจึงไม่แจ้งโจทก์ทราบตั้งแต่ครั้งที่จำเลยที่ 16 แจ้งต่อโจทก์ว่า โจทก์ไม่ผ่านการตรวจสอบเพราะคุณสมบัติไม่ครบถ้วนเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 เหตุใดการประปานครหลวง จึงมีหนังสือแจ้งผลการจัดซื้อจัดจ้างแก่โจทก์ ตามแบบแจ้งผลการจัดซื้อจัดจ้าง ลงวันที่ 1 มีนาคม 2565 โดยแจ้งว่า โจทก์ไม่ได้รับการคัดเลือก เนื่องจากไม่ผ่านการตรวจสอบในเรื่องคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ไม่เป็นไปตามคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอ ตามที่กำหนดในประกาศประกวดราคา ข้อ 11 และเอกสารประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยการประกวด ราคาอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2.11 เพียงข้อเดียว
4. ในการพิจารณาผลการประกวดราคาตามฟ้อง เหตุใดการประปานครหลวง จึงต้องให้จำเลยที่ 29 และจำเลยที่ 30 ผู้ให้บริการงานจ้างออกแบบสัญญา SD-901(R1)เป็นผู้ตรวจสอบเอกสารยืนยันการใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์และแบบฟอร์มข้อมูลแสดงประสิทธิภาพ ของเครื่องจักรและอุปกรณ์ ภาคผนวก “ช” และเอกสารทุกภาคผนวกของผู้เข้าประกวดราคา อาศัยอำนาจตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับใด และมีการพิจารณาคัดเลือกผู้ตรวจสอบอย่างไร
5. การที่จำเลยที่ 18 มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงถึงกรมบัญชีกลาง ตามหนังสือ การประปานครหลวง ด่วนที่สุด ที่ มท 5450-3-1.2/17914 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2565 นั้น เป็นเหตุผลที่แสดงให้เห็นว่าเอกสารการประกวดราคามีความไม่ชัดเจน อันอาจทำให้ผู้เข้าร่วม การประกวดราคาเข้าใจคลาดเคลื่อนได้หรือไม่ อย่างไร
6. เหตุใดการประปานครหลวง ไม่ส่งอุทธรณ์ (ครั้งที่2) ของโจทก์ให้คณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนต่อกรมบัญชีกลาง เป็นผู้พิจารณา แต่กลับมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของ โจทก์ คำสั่งไม่มีเหตุผลอันเป็นเหตุแห่งการอุทธรณ์ของจำเลยที่ 17 ตามหนังสือที่ มท 5450-3- 1.2/9906 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2566 ก่อนทำคำสั่งดังกล่าวจำเลยที่ 17 ได้นำอุทธรณ์ของโจทก์เข้าที่ ประชุมหรือมอบหมายให้ผู้ใด เป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและเสนอความเห็น ก่อนมีคำสั่ง หรือไม่ อย่างไร และผู้ออกคำสั่งไม่ส่งอุทธรณ์คือการประปานครหลวงหรือผู้ใด
7. เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนกรมบัญชีกลาง เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น และมีหนังสือแจ้งให้การประปานครหลวง “กลับไปดำเนินการในขั้นตอน การพิจารณาผลการเสนอราคาให้ถูกต้องต่อไป” เหตุใดการประปานครหลวงจึงไม่ปฏิบัติตามผล การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ด้วยการดำเนินการ ในขั้นตอนพิจารณาผลการเสนอราคาฯ ตามหนังสือแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ที่ กค (กอร) 0405.5/14496 ลงวันที่ 21 เมษายน 2565
8. เหตุใดการประปานครหลวงออกหนังสือ ที่ มท 5450-3/17633 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2565 ถึงจำเลยที่ 30 ในฐานะกรรมการผู้จัดการจำเลยที่ 29 เรื่องการพิจารณาตรวจสอบ เอกสารยื่นข้อเสนอประกวดราคางานก่อสร้าง สัญญา GE-MS5/6-9 เพื่อให้จำเลยที่ 29ตรวจสอบเอกสารผู้ยื่นข้อเสนอประกวดราคาให้ถูกต้อง ครบถ้วน ทุกภาคผนวก ใหม่อีกครั้ง ตามความประสงค์ของ ITA Consortium ให้เลื่อนไปนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาวันที่ 19 ตุลาคม 2566 เวลา 09.30 นาฬิกา./ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง วันอังคารที่ 29 สิงหาคม 2566