ช่วงเช้าวันนี้ (4 ต.ค.66) ที่กระทรวงการต่างประเทศ มีการแถลงข่าวผลการประชุมหารือเพื่อพัฒนามาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะและแหล่งท่องเที่ยว
นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิต และบาดเจ็บต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่ห้างพารากอนเมื่อวานนี้ ที่จะต้องคำนึงถึงสภาพจิตใจของคนไทยทุกคน การควบคุมกฎหมาย เช่น การซื้ออาวุธปืน พร้อมย้ำว่า เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงแล้วไม่ได้มีเหตุการณ์ต่อเนื่อง
รมช.ต่างประเทศ กล่าวว่า ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์กับ เอกอัครราชทูตจีน และเมียนมาประจำประเทศไทยด้วยตัวเอง ซึ่งหลังจากการแถลงข่าวเสร็จ เราจะเดินทางไปห้างพารากอน และสถานทูตจีนและเมียนมารวมถึงสถานทูตอื่นที่มีผู้ได้รับผลกระทบ
ด้านนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าววา รัฐบาลไทยขอแสดงความเสียใจอย่างลึกซึ้ง แก่ผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกคน กับเหตุการณ์สุดวิสัยที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ไม่มีใครอยากให้เกิด ไม่ว่าที่ใดในโลกก็ตาม
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาวจีน 1 คนที่เดินทางมาในวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในช่วงฟรีวีซ่าในไทย และอีก1 คนเป็นคนเมียนมาร์
ส่วนผู้ผู้บาดเจ็บ มี 5 ราย เป็น ชาวจีน 1 ราย ที่มากับผู้เสียชีวิต และชาวสปป.ลาว 1 รายและคนไทย 3 ราย โดยทางรัฐบาลไทยจะดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุด รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับครอบครัว ที่เข้ามาพบผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต
"โดยผู้บาดเจ็บทั้ง 5 ราย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ได้ไว้เป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์"รมว.ท่องเที่ยว กล่าว
นอกจากนี้ นางสาวสุดาวรรณ กล่าวด้วยว่า การดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดตั้ง situation Command Center ไว้ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อสื่อสารกับทุกภาคส่วน และอัพเดตสถานการณ์ ซึ่งเป็นการจัดตั้งแค่ชั่วคราวเฉพาะเหตุการณ์นี้ไม่ได้ระยะยาว โดยไว้ประสานงานกับสถานทูตต่างๆ เพื่อดูแลครอบครัวของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบด้วย
ส่วนได้รับการตอบกลับมาอย่างไรนั้น เบื้องต้นมีโอกาสได้อยู่กับนายกรัฐมนตรี ในช่วงการติดต่อกับ เอกอัครราชทูตจีนโดยเรา รายงานความคืบหน้า ให้ทางจีนได้รับรู้ ซึ่งทางเอกอัครราชทูตจีนก็ได้ขอบคุณที่นายกได้รีบดำเนินการ
รมว.ท่องเที่ยว กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในช่วงฟรีวีซ่า จะเรียกความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวอย่างไรนั้น เรื่องนี้ต้องพยายามสร้างความเชื่อมั่น ส่วนผลกระทบนั้นก็ต้องติดตามต่อไป
ส่วนเรื่องของระบบ Emergency alert ที่เป็นมากว่าการส่ง SMS แจ้งเตือนประชาชน สามารถ Kick Off ได้เมื่อไหร่ นางสาวสุดาวรรณ เรื่องนี้ต้องพูดคุยกันหลายภาคส่วน และจะต้องบูรณาการกันต่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรง รัฐบาลก็บอกแต่ว่าถอดบทเรียนแต่ก็เกิดเหตุการณ์ซ้ำ จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวอย่างไร นางสาวสุดาวรรณกล่าวว่าเหตุการณ์นี้ผิดปกติ และไม่ได้เกิดประจำ เป็นการเกิดแค่ครั้งนี้เดียว และจะพยายามควบคุมไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
"ส่วนเรื่องการเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บนั้นทางรัฐบาลไทยเยียวยาเต็มที่ ในกรณีนี้ควรมีมาตรการช่วยเหลือ อาจจะใช้งบปกติหรืองบกลาง ต้องหารือกันอีกครั้ง ซึ่งทางด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บได้ติดต่อมาแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการพูดถึงการเยียวยาทางการไทย ก็จะดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตให้ดีที่สุด"
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เราได้มีการบริหารจัดการมอนิเตอร์ข่าวต่างๆตั้งแต่เมื่อวานนี้ และดำเนินการ 3 ส่วน
1. มาตรการด้านความปลอดภัย ที่ต้องยกระดับในทุกพื้นที่ เพื่อนนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ
2. มาตรการเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจ อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
3.มาตรการสื่อสารภาครัฐและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ ซึ่งในส่วนของการสื่อสารภาครัฐเองได้แบ่งเป็น 3 ระยะ สั้น กลางและยาว ซึ่งในระยะยาวจะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสร้างความมั่นใจ ซึ่งรัฐมนตรีท่องเที่ยวและ กระทรวงการต่างประเทศก็จะเริ่มดำเนินการในวันพรุ่งนี้
ขณะที่พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งผบ.ตร.ได้ประเมินเหตุการณ์ว่าเป็น active shooter ซึ่งเราได้ฝึกซ้อมการรับมือ และผลการปฏิบัติงานก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีรับมือได้เร็ว
ส่วนการครอบครองอาวุธนั้น ย้ำว่าผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนแบลงค์กันซึ่งเป็นปืนพลาสติก แล้วมาดัดแปลงเปลี่ยนลำกล้อง ดังนั้นต่อไปเราต้องเพิ่มการควบคุม เช่นกฎหมายที่ควบคุมแบลงค์กัน การแปลงสภาพอาวุธปืน โดยจะเพิ่มเติมในเรื่องของวัสดุเทียมที่สามารถนำมาเป็นอาวุธปืนได้ เป็นต้น
ส่วนได้ประสานกับผู้ประกอบการถึงมาตราการตรวจสอบอาวุธก่อนเข้าห้างอย่างไร พล.ต.ท. สำราญ กล่าวว่า ทางสตช. ได้พูดคุยและได้ฝึกซ้อมกับทางไว้แล้ว ทำให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องหารือกันเพื่อกำหนดมาตราการต่อไป