ทิสโก้ ชวนวางแผนภาษี ด้วย ‘ประกันบำนาญ’

08 พ.ย. 2567 | 07:09 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ย. 2567 | 07:09 น.

ธนาคารทิสโก้ ชวนลูกค้าวางแผนภาษีโค้งสุดท้ายปี 2567 ด้วยประกันบำนาญ ชี้เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยปิดความเสี่ยง ‘อายุยืนแต่ไร้เงินใช้’

นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ Head of Wealth Advisory ธนาคาร ทิสโก้ จำกัด (มหาชน)หรือ TISCO เปิดเผยว่า ทิศทางสังคมผู้สูงอายุของไทยไม่เพียงแต่จะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น แต่ผู้สูงอายุยังมีแนวโน้มที่มีอายุขัยยืนยาวมากขึ้น โดยข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ปัจจุบันคนไทยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 75 ปี และจะเพิ่มขึ้นอีกปีละ 4.4 เดือน

นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ Head of Wealth Advisory ธนาคาร ทิสโก้ จำกัด (มหาชน)

ประกอบกับการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้คาดการณ์ว่า คนไทยที่เกิดตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป จะมีอายุยืนถึง 100 ปี  

ดังนั้น การวางแผนการเงินเพื่อใช้หลังเกษียณจึงมีความเสี่ยงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Longevity Risk” หรือ ความเสี่ยงจากการที่คนมีอายุยืนยาวขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต  

ธนาคารทิสโก้จึงแนะนำให้ลูกค้าและคนไทยใช้ ‘ประกันบำนาญ’ เพื่อปิดความเสี่ยงอายุยืนแต่ไร้เงินใช้ เพราะเป็นอีกเครื่องมือทางการเงินหนึ่งที่ผู้วางแผนการเงินเพื่อการเกษียณสามารถสร้างกระแสเงินสดผ่านเงินบำนาญให้ผู้เอาประกัน ในขณะมีชีวิตอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่อายุ 60 - 99 ปี

ซึ่งผลประโยชน์ที่ได้รับก็จะไม่ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจเหมือนการลงทุนประเภทอื่น จึงช่วยให้ผู้ซื้อประกันมีหลักประกันชีวิต นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตหลังเกษียณที่ดีเป็นผลประโยชน์ขณะดำรงชีวิต (Living Benefit) อีกทั้งยังสามารถนำค่าเบี้ยมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงอีกด้วย  

 “ประกันบำนาญเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของการวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณ และควรเริ่มซื้อตั้งแต่อายุน้อยเพราะช่วยให้ค่าเบี้ยประกันที่จ่ายต่อปีก็จะน้อยกว่าเมื่อซื้อช่วงที่อายุมากแล้ว”

นอกจากนี้ ประกันบำนาญยังเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยบริหารจัดการภาษีช่วงปลายปี นอกจากการลงทุนลดหย่อนภาษีในรูปแบบ RMF, SSF และ THAIESG 

โดยผู้ซื้อประกันบำนาญสามารถนำค่าเบี้ยมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี หรืออาจลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาทต่อปี กรณีที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไป ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด” นายณัฐกฤติกล่าว  

สำหรับเทคนิคการเลือกประกันบำนาญให้มีความคุ้มครองที่คุ้มค่า มีดังนี้  

  1. ควรเลือกประกันบำนาญที่จ่ายเงินบำนาญที่ยาวนาน เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลประโยชน์ที่คุ้มค่า โดยอาจเลือกประกันบำนาญที่จ่ายเงินบำนาญนานไปจนถึงอายุ 99 ปี เพื่อตอบโจทย์ที่คนไทยมีโอกาสอายุยืนยาวมากกว่าในอดีต  
  2. ควรเลือกกรมธรรม์ที่มีระยะเวลาการจ่ายเบี้ยประกันสั้น เพราะให้ความคุ้มค่ามากกว่ากรมธรรม์ที่จ่ายเบี้ยระยะยาว เช่น ประกันบำนาญที่ชำระค่าเบี้ยประกันแบบ 5 ปี จะมีค่าเบี้ยประกันรวมต่ำกว่าประกันบำนาญที่ชำระค่าเบี้ยประกันแบบ 10 ปี เมื่อเทียบความคุ้มครองและการรับเงินบำนาญเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เท่ากัน 
  3. ควรเลือกกรมธรรม์ที่จ่ายเงินบำนาญแต่ละปีให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต โดยปัจจุบันการรับเงินบำนาญแต่ละปีมีให้เลือกหลากหลาย เช่น แบบเงินรับบำนาญทุกปี ปีละ 15% 20% 36% ของจำนวนเงินเอาประกัน สำหรับวิธีคำนวณหาจำนวนเงินเอาประกันภัย (ทุนประกัน) ที่เหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพชีวิตหลังเกษียณอายุให้คล้ายกับตอนทำงาน เบื้องต้นแนะนำให้ท่านประเมินหาค่าใช้จ่ายหลังเกษียณต่อเดือน โดยอัตราที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 70% ของค่าใช้จ่ายต่อเดือน ณ วันก่อนเกษียณ โดยที่ประมาณ 75% นั้นจะเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร ค่าที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ  เป็นต้น ส่วนที่เหลือจะเป็นค่าใช้จ่ายตาม Lifestyle เช่น การท่องเที่ยว การบริจาคทำบุญ และการลงทุนต่างๆ 
  4. เลือกแบบประกันบำนาญที่จ่ายเงินให้สูงกว่าในกรณีเสียชีวิตก่อนรับบำนาญ เนื่องจากเงินที่ได้รับในกรณีเสียชีวิตก่อนรับบำนาญของแต่ละแบบประกันอาจไม่เท่ากัน เช่น หากเสียชีวิตก่อนรับเงินบำนาญ จะได้รับเงินทั้งหมด 105% หรือ 110% ของเบี้ยประกันภัยที่ชำระมาแล้วทั้งหมด เป็นต้น 
  5. ควรเลือกบริษัทผู้รับประกันที่มีความมั่นคง โดยพิจารณาจากบริษัทมีเงินสำรองประกันภัยและเงินกองทุนอยู่ในระดับสูง เนื่องจากเป็นประกันบำนาญเป็นประกันที่มีระยะยาว