วันที่ 16 พ.ย. 66 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้า "นโยบายแจกแท็บเล็ตนักเรียน" ล่าสุดว่าอาจมีการปรับรูปแบบที่ไม่แจกเป็นแท็บเล็ตแล้ว
โดย รมช.สุรศักดิ์ กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ที่ โรงแรมเทวราช จ.น่านว่า นโยบายการแจกแท็บเล็ตนักเรียน ขณะนี้อาจมีการปรับรูปแบบที่ไม่แจกเป็นแท็บเล็ตแล้ว แต่จะแจกเป็นแล็ปท็อป หรือโน้ตบุ๊กแทน ต้องการให้เกิดความคุ้มค่า
"โดยการปรับเปลี่ยนครั้งนี้เกิดจากการฟังเสียงสะท้อนของครูและนักเรียนว่าแล็ปท็อปจะเกิดประโยชน์ต่อการใช้งานมากกว่า เพราะหากเป็นแท็บเล็ตจะตกรุ่นเร็ว"นายสุรศักดิ์ กล่าว
"การดำเนินการเรื่องการแจกแล็ปท็อปนั้นจะจัดทำในรูปแบบการเช่าที่มาพร้อมแพ็กเกจสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยจะเริ่มแจกแล็ปท็อปของงบประมาณปี 67 ในกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นก่อน เพราะงบประมาณมีจำนวนจำกัด หลังจากนั้นจะขยายแจกเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งในจำนวนนี้ครูจะได้รับแจกด้วยเช่นกัน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการจัดการเรียนการสอน"
รมช.ศึกษา กล่าวด้วยว่า จะดำเนินการเรื่องแจกแล็ปท็อปจนทุกคนต้องร้องว้าว เคยมีข้อครหาว่าการซื้อของหลวงมีราคาแพงกว่าท้องตลาด แต่ครั้งนี้จะมีราคาอย่างสมเหตุสมผลแน่นอน เพราะการเช่าดูแลสินค้ามีครบวงจรกว่า โดยจะเกิดความเหมาะสมทั้งสเปก คุณภาพ และการใช้งาน ทั้งนี้เราคาดหวังว่าความเท่าเทียมการศึกษาจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบคำแถลงนโยบาย ของคณะรัฐมนตรี ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ถึงนโยบายด้านการศึกษาแบบคำต่อคำว่า
"ในด้านการศึกษา รัฐบาลจะดำเนินนโยบายปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งส่งเสริมให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนตามความถนัด เพื่อสร้างอนาคต สร้างรายได้กระจายอำนาจการศึกษาให้ผู้เรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้อย่างทั่วถึง มีอุปกรณ์การเรียนที่เหมาะสมต่อผู้เรียนแต่ละวัย
และใช้ระบบเทคโนโลยีการศึกษาสมัยใหม่ จัดทำหลักสูตรและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับความรู้ความสนใจของผู้เรียน ส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาทั้งในด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Applied Science) และการวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research)
เพื่อต่อยอดให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยไม่ละเลยการศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศและการปลูกฝังความรักในสถาบันหลักของชาติ เพื่อให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคม และการเมืองของโลกสมัยใหม่อย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม
รัฐบาลจะให้ความสำคัญต่อความมีคุณภาพของครูทั้งประเทศ รวมไปถึงครูแนะแนวเพื่อช่วยให้นักเรียนได้รับคำแนะนำด้านเนื้อหาของวิชาการและการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกเรียนและประกอบอาชีพ รวมไปถึงการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจของนักเรียนทุกคน นอกจากนี้รัฐบาลจะส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่นักเรียน นักศึกษา
ทั้งสายวิชาการและสายอาชีพให้มีรายได้จากวิชาที่เรียน โอกาสฝึกงานระหว่างเรียน เพื่อสร้างบุคลากรที่มีทักษะและความสามารถตรงต่อความต้องการของการจ้างงาน และที่สำคัญที่สุด รัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่เป็นรากฐานสำคัญของความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสังคมไทย
นอกจากนี้ ฐานเศรษฐกิจ ยังตรวจสอบนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นนโยบายด้านการศึกษา โดยมีรายละเอียดนโยบาย