โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ด้วยการอัดฉีดเงิน 500,000 ล้านบาทเข้าไปในระบบเพื่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยหมุนเวียนภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลสรุปการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา
ตามไทม์ไลน์รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่า เงินดิจิทัล 10,000 บาท จะเปิดให้ประชาชนได้ใช้ในช่วงปลายปี 2567
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมีปัญหาในเรื่องข้อกฎหมายอีกหลายด้าน จึงยังไม่ชัดเจนว่าจะสามารถเปิดให้ลงทะเบียน การเริ่มใช้เงินครั้งแรก ได้วันไหน
เพื่อความชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ล่าสุดรัฐบาลได้จัดทำเอกสารอธิบาย 13 คำถามคาใจ Digital Wallet ฉบับประชาชน หนึ่งในนั้น เป็นการชี้แจงเรื่อง ระยะเวลาการลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 การเริ่มใช้เงินครั้งแรก ระยะเวลาสิ้นสุดการใช้เงินของประชาชน ระยะเวลาสิ้นสุดการใช้เงินของร้านค้า พร้อมเงื่อนไข ซื้ออะไรได้ไม่ได้ ดังนี้
ล่าสุด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ได้ประกาศแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยให้ร้านค้า และ ประชาชนลงทะเบียนในไตรมาส 3 และ ใช้จ่ายในไตรมาส 4
เงื่อนไขแจกเงินดิจิทัล
กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนจำนวนประมาณ 50 ล้านคน โดยมีเกณฑ์ ได้แก่
• อายุ 16 ปีขึ้นไป ณ เดือนที่มีการลงทะเบียน
• ไม่เป็นผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี
• มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
เงื่อนไขการใช้จ่ายเงิน – ใช้ได้ที่ไหนบ้าง?
• ใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้า ในพื้นที่ระดับอำเภอ โดยกำหนดให้ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเท่านั้น
• ใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า
เงื่อนไขการซื้อสินค้า
• สามารถซื้อสินค้าได้ทุกประเภท ยกเว้น สินค้าอบายมุข, น้ำมัน, การบริการและซื้อของออนไลน์ รวมถึงสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเพิ่มเติม
ระบบที่จะใช้งาน
• ใช้งานผ่านระบบที่รัฐบาลพัฒนาขึ้นในลักษณะ Super App ซึ่งจะพัฒนาให้ใช้กับธนาคารอื่น ๆ ได้
งบประมาณที่ใช้
• เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท
• การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้จาก ธ.ก.ส. ซึ่งจะดูแลเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ 17 ล้านคน ตาม ม.28 ของปีงบประมาณ 2568
• การบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท.