นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า กระทรวงฯ, คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือหลักสูตรการยุติความรุนแรง ลดการตีตรา และการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งอัตลักษณ์ทางเพศและวิถีทางเพศ ซึ่งพิธีนี้เป็นการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของความคิดริเริ่มที่ก้าวล้ำที่มุ่งยุติความรุนแรงและลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติตามอัตลักษณ์ทางเพศและวิถีทางเพศ
สำหรับการพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมที่ครอบคลุมในหัวข้อ หลักสูตรการยุติความรุนแรง ลดการตีตรา และการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งอัตลักษณ์ทางเพศและวิถีทางเพศ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล และสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากสถานทูตสหรัฐฯ ผ่านทาง the U.S. President's Emergency Plan for AIDS Relief (PEPFAR) ผ่านองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (United States Agency for International Development - USAID) เพื่อกระจายแหล่งเงินทุนโดยดำเนินการตามแผนความยั่งยืนด้วยการพัฒนารูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม (วิสาหกิจเพื่อสังคม)
ส่วนการจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) วัตถุประสงค์หลักของหลักสูตร คือ การเสริมสร้างศักยภาพของเยาวชนโดยเฉพาะชุมชน LGBTQI+ โดยการส่งเสริมความเข้าใจและส่งเสริมความหลากหลายทางเพศเพื่อลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติ หลักสูตรการฝึกอบรมนี้ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อเริ่มต้นกระบวนการขัดเกลาทางสังคมทางเพศในหมู่เยาวชนและสังคมโดยรวม ซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาผู้นําที่สามารถให้ความช่วยเหลือและป้องกันผู้ที่เผชิญกับความรุนแรง การตีตรา การเลือกปฏิบัติและการละเมิดสิทธิมนุษยชนภายในชุมชนของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ USAID มุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนด้านเทคนิคเพื่อให้สามารถขยายโปรแกรมให้ครอบคลุมภาคเอกชนและภาครัฐต่างๆ เพื่อตอกย้ำความสามารถในการสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนต่อชุมชน
นายอนุกูล กล่าวต่อว่า การศึกษาและพัฒนาหลักสูตรเพื่อยุติความรุนแรง ลดการตีตรา และการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งอัตลักษณ์ทางเพศและวิถีทางเพศ โดยสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นเครื่องมือหนึ่งที่สำคัญ เป็นกระบวนการในการออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับทุก ๆ บริบท และองค์กร
ทั้งนี้หลักสูตรดังกล่าวจะช่วยการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ ให้หน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา องค์กรภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป มีความคิดที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศ ตระหนักรู้และยอมรับการดำรงอยู่และสิทธิของบุคคลเพศอื่น ๆ นอกเหนือจากชายและหญิง ซึ่งมีความสอดคล้องกับหลักการสิทธิมนุษยชนสากลตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ความเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเราสร้างพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ การสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นของการสร้างสังคมที่รับรู้ความแตกต่างเพศและสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและสร้างสรรค์ได้แก่ทุกคนในสังคม
รายงานข่าวจากสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย ระบุว่า สมาคมฯ เป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่อุทิศตนรับใช้มา 25 ปี ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเพิ่มขีดความสามารถของชุมชน สุขภาพ และสิทธิมนุษยชน สมาคมมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพึ่งพาตนเองและยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกในชุมชนจากทุกสาขาอาชีพเพื่อช่วยให้ประเทศไทยสร้างสังคมที่ครอบคลุมและเท่าเทียมกันมากขึ้นตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
อย่างไรก็ตามสมาคมจึงตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาขีดความสามารถของแต่ละบุคคลสร้างความรู้ความเข้าใจขององค์กรและสร้างความตระหนักทางสังคมในการขจัดอคติต่อเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ นี่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่นําไปสู่การตีตราและการเลือกปฏิบัติตลอดจนการกระทำความรุนแรงทางเพศต่อผู้หญิงคนข้ามเพศและคนที่มีความหลากหลายทางเพศ สมาคมฯ ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติความเท่าเทียมทางเพศ พ.ศ. 2558 (2015) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลได้รับการคุ้มครองและปกป้องตามเพศของพวกเขา