นายสมชาย อาภรณ์พงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อย และ SMEs Start up เปิดเผยว่า ธนาคารออมสิน มุ่งมั่นสู่การเป็นธนาคารเพื่อสังคม และมีส่วนในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก จึงได้เดินหน้าโครงการ “ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น” ต่อเนื่องมากว่า 7 ปี
โดยธนาคารร่วมกับสถาบันอุดมศึกษา 67 แห่ง สนับสนุนให้นิสิตนักศึกษารวมกว่า 15,000 ราย นำความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่ ไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ สินค้า และบริการของวิสาหกิจชุมชน/กลุ่ม OTOP/กลุ่มอาชีพ/กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนโฮมสเตย์กว่า 2,000 กลุ่ม ในพื้นที่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
ทั้งนี้ เพื่อให้คนในชุมชน มีงาน มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้น สร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินที่เป็นธรรม รวมถึงคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และผู้รับประโยชน์ตลอดห่วงโซ่อุปทานมากกว่า 70,000 ราย
โดยความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ลงพื้นที่พัฒนาวิสาหกิจชุมชนสวนบัวโฮมสเตย์ กลุ่มแม่บ้านทำทองพับสมุนไพร รวมถึงการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวจากวัดสวนแก้วสู่ชุมชนสวนบัว ทำให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ช่องทางการท่องเที่ยว ส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 นำมาซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นกับกลุ่มและคนในชุมชน
สำหรับกิจกรรม One Day Trip Econmass X GSB เพื่อสังคม ตอน สวนแก้วสู่สวนบัว ได้เชิญชวนสมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจในครั้งนี้กว่า 40 คน นำโดยนายกฤษณะพงศ์ พงศ์แสนยากร นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ
พาคณะ “ชิม ช้อป ชิลล์” ไปกับอาหาร-เครื่องดื่มที่อร่อย หาทานได้ยาก เช่น ขนมเบื้องญวณ เมี่ยงคำ บ้าบิ่น และ ชื่นใจกับน้ำตาลสด และยังเป็นแหล่งขายสินค้าชุมชน ที่นำมาจำหน่าย ทั้งมะม่วงยายกล่ำที่เป็นของดีเมืองนนท์ และผลไม้อื่น ๆ มากมาย
นายกฤษณะพงศ์ พงศ์แสนยากร นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ กล่าวว่า สมาคมฯ และผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจที่มาในวันนี้ ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจชุมชน ให้มีการสร้างรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในยุคปัจจุบัน และจะยิ่งดีขึ้นไปอีกหากมีการเหลือเก็บออม ตามวิสัยทัศน์ของธนาคารออมสิน
โดยพบว่า ชุมชนแห่งนี้มีความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นไปตามควิกวินของรัฐบาล ที่สนับสนุนให้การท่องเที่ยวเป็นกลไกในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ควบคู่ไปกับเสริมความเข้มแข็งในชุมชน และเศรษฐกิจฐานราก
“สวนแก้วและชุมชนสวนบัว อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่ถึง 1 ชั่วโมง จึงเชื่อว่า ในอนาคตจะเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวใกล้กรุงที่สำคัญ หากเกิดความร่วมมือกันของคนในชุมชน ต่อยอดพัฒนา สินค้าและบริการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง”
พร้อมกันนี้ ธนาคารออมสิน จึงถือโอกาสในการปรับปรุงสะพานที่เชื่อมระหว่างการเดินทางบนบกและ การเดินทางทางน้ำ เพื่อให้สะดวก ปลอดภัย และที่สำคัญมีความสวยงาม พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง
และยังได้มอบจักรยานให้กับวัดสวนแก้ว เพื่อเป็นพาหนะในการเดินทาง เชื่อมจากวัดไปยังชุมชนได้อย่างสะดวก และไม่ปล่อยมลพิษ นับเป็นการสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนโครงการธนาคารภูมิปัญญาของพื้นที่ โดยสนับสนุน “เรือนสมฤดีบ้านไม้ 100 ปี” และ “โรงน้ำตาลมะพร้าวภูมิปัญญาชุมชน” ด้วยการทำป้ายประชาสัมพันธ์ และจัดทำสื่อ เพื่อให้เกิดการเผยแพร่ และเป็นที่รู้จักในแผนที่ท่องเที่ยวจากสวนแก้วสู่สวนบัวต่อไปอีกด้วย
สำหรับปี 2563-2566 ธนาคารออมสินมุ่งมั่นเป็นธนาคารเพื่อสังคม โดยได้ให้การช่วยเหลือสังคมไปแล้ว 63 โครงการ มีประชาชนที่ได้รับประโยชน์มากกว่า 18 ล้านคน รวมถึงมีการสนับสนุนเงินทุน 8.9 ล้านคน และสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง 3,600 ชุมชน ผ่านการสร้างงานสร้างอาชีพ ไปพร้อมกับการสร้างชุมชนยั่งยืน