สมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ เปิดสาเหตุไฟไหม้เยาวราช

09 ก.ค. 2567 | 04:27 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.ค. 2567 | 04:30 น.

สมาคมวิศวกรฯ เผย 2 สาเหตุไฟไหม้ถนนเยาวราช คาดอาคารเก่า-ทรุดหนัก ลุยส่งผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ พบกลุ่มอาคาร 2 แห่งได้รับความเสียหายจากโครงสร้าง

ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ ถ.เยาวราช เมื่อคืนวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างอาคาร ได้แก่ นายชูเลิศ จิตเจือจุน และนายวัฒนพงศ์ หิรัญมาลย์ กรรมการบริหารสมาคมฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารร่วมกับสำนักงานควบคุมอาคาร กทม. และเจ้าหน้าที่โยธาจากสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2567  

 

ทั้งนี้จากผลการสำรวจพื้นที่และสภาพโครงสร้างอาคาร สามารถจัดแบ่งอาคารเป็น 2 กลุ่มตามระดับความเสียหายทางโครงสร้าง

 

1. อาคารตรงบริเวณชุมชนตรอกโพธิ์ ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โดยตรง พบว่าอาคารส่วนใหญ่ในบริเวณดังกล่าวประมาณร้อยละ 80 ได้รับความเสียหายทางโครงสร้างและทางสถาปัตยกรรมอย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นจุดที่เกิดเพลิงไหม้โดยตรง และอาคารส่วนใหญ่ก่อสร้างขึ้นจากไม้ ซึ่งเป็นวัสดุที่ติดไฟได้ง่าย 
 

ดังนั้นอาคารในบริเวณดังกล่าว จึงไม่สามารถใช้การได้อีก อย่างไรก็ตามมีอาคารบางส่วนประมาณ 20% ซึ่งได้รับความเสียหายน้อยกว่า และต้องเข้าไปตรวจสอบอาคารเหล่านี้อีกครั้ง

 

2. อาคารตึกแถว 6 ชั้นที่อยู่ด้านนอก และติดกับชุมชนตรอกโพธิ์ ซึ่งทางสมาคมฯ ได้เข้าตรวจสอบอาคารที่เป็นภัตตาคารและโรงแรม พบว่า อาคารทั้งสองเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กซึ่งเป็นวัสดุที่ทนไฟได้ดีกว่าอาคารไม้หรือเหล็ก 

 

ศ.ดร.อมร กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบชั้น 4-6 ของอาคารยังไม่พบความเสียหายของโครงสร้าง เนื่องจากคอนกรีตไม่เปลี่ยนสี คอนกรีตที่หุ้มเหล็กยังไม่กะเทาะ และเหล็กเสริมที่อยู่ด้านในไม่เสียรูป แสดงว่ายังไม่ได้รับผลกระทบจากความร้อนมากนัก โดยรวมแล้ว สภาพทางโครงสร้างยังถือว่ามั่นคงแข็งแรงอยู่ 

ทั้งนี้ความเสียหายที่พบได้แก่ปูนฉาบที่กะเทาะหลุดออกมา และวัสดุตกแต่งทางสถาปัตยกรรมที่เผาไหม้จากความร้อน ซึ่งไม่กระทบต่อโครงสร้างหลัก ส่วนชั้นล่างของอาคารไม่พบความเสียหายทั้งในส่วนงานโครงสร้างและงานสถาปัตยกรรมในระดับที่สำคัญ

 

“อาคารตึกแถวเหล่านี้ เป็นอาคารเก่าและก่อสร้างมานานกว่า 30-40 ปีแล้ว แม้ว่าเหตุเพลิงในครั้งนี้ เมื่อประเมินจากสายตาแล้ว ยังไม่กระทบต่อโครงสร้างอาคาร แต่ก็ควรทำการประเมินเชิงลึกอีกครั้งหลังจากที่ได้เคลียร์พื้นที่แล้ว โดยใช้การทดสอบแบบไม่ทำลาย และการเจาะคอนกรีตเพื่อพิสูจน์กำลังอัด หรือทำการทดสอบการรับน้ำหนักบรรทุก (Load test) เพื่อให้เกิดความมั่นใจในโครงสร้างต่อไป” 

 

อย่างไรก็ตามมีอาคารตึกแถวบางส่วนที่อยู่ด้านซอยเยาวราช 7 อาจพบเห็นว่ามีการเอียงหรือทรุด แต่การทรุดเอียงดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นมานานแล้วเนื่องจากเป็นอาคารเก่าและเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการรับน้ำหนักของชั้นดินและฐานราก ซึ่งไม่น่าเกี่ยวข้องกับเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ แต่ก็ควรตรวจสอบละเอียดให้แน่ชัดอีกครั้ง