นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา โฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ (25 สิงหาคม 2567) ได้รับมอบหมายจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินถล่มบริเวณอุโมงค์ในโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิตร ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
จากการตรวจสอบ และได้รับรายงานพบว่า จุดเกิดเหตุนั้นมีความลึกประมาณ 30 เมตร ซึ่งในขณะเกิดเหตุอยู่ระหว่างการปฏิบัติงานทำผนังอุโมงค์ และมีฝนตกสะสม จึงทำให้ดินหนัก ส่งผลให้ทราย และเศษปูนไหลร่วงลงมา
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้ปฏิบัติงานติดอยู่ภายในอุโมงค์ จำนวน 3 ราย ได้แก่
1.หูเสียงหมิ่น เพศชาย สัญชาติจีน (ผู้ควบคุมงาน)
2.ตงชิ่นหลิน เพศชาย สัญชาติจีน (ขับแม็คโคร)
3.แรงงานชาวพม่า ไม่ทราบชื่อ (ผู้ขับรถบรรทุก)
นายกฤชนนท์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยการอัดท่อเข้าไปภายในอุโมงค์ เพื่อเพิ่มอากาศด้านล่างที่มีดินถล่มทับ
หลังจากนั้นจะใช้ท่อที่มีความกว้าง 1.2 เมตร อัดอากาศเข้าไปอีก เพื่อให้มีอากาศหายใจ รวมถึงเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถลงไปด้านล่าง เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในอุโมงค์อย่างเต็มที่ และเร่งด่วน
นายกฤชนนท์ กล่าวต่อว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ติดตามเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์สำเร็จ
ทั้งนี้กระทรวงจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงตรวจสอบสัญญาจ้างต่าง ๆ อย่างละเอียดและจัดทำสมุดพกตัดคะแนนผู้รับเหมา ซึ่งจะส่งผลต่อการเข้าร่วมประมูลงานอื่น ๆ ในอนาคต
"ผมได้เน้นย้ำว่า เหตุการณ์ต้องไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกอย่างเด็ดขาด หากเกิดเหตุการณ์ซ้ำจะมีบทลงโทษขึ้นสูงสุดต่อไป เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ดูแลรับผิดชอบโครงการฯ มุ่งเน้นด้านความปลอดภัยสูงสุด" นายกฤชนนท์ กล่าว
ขณะที่โครงการอื่น ๆ ของกระทรวงคมนาคมนั้น จะคุมเข้มเรื่องการกลั่นกรองผู้รับเหมามากขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่มีความซับซ้อน และโครงการที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษ ซึ่งต้องใช้ความชำนาญครอบคลุมในทุกมิติ
ส่วนการเข้าประมูลงานของรัฐนั้น ไม่ใช่เพียงว่าเป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษจะสามารถเข้าร่วมประมูลได้ แต่จะมีการตรวจสอบเชิงเทคนิคของบริษัทที่จะเข้ารับงานอย่างละเอียด และต้องให้ความสำคัญด้านความปลอดภัย รวมถึงต้องไม่เกิดเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้วย
อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมจะเข้มงวด และตรวจสอบทุกโครงการอย่างละเอียด โดยเฉพาะด้านเทคนิค ด้านความปลอดภัย ซึ่งต้องไม่เกิดเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อพี่น้องประชาชน จะมีการเข้าตรวจสอบในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน และในขณะทำงาน รวมถึงหลังจากงานแล้วเสร็จอย่างละเอียด