"ไฟไหม้รถบัสล่าสุด" เจ้าของยืนยันพร้อมรับผิดชอบ เร่งเยียวยาผู้เสียหาย

01 ต.ค. 2567 | 07:10 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2567 | 09:24 น.

เจ้าของรถบัสไฟไหม้ ชินบุตรทัวร์ เร่งเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ยืนยันรถตรวจสอบสภาพและมีประกันถูกต้อง

วันที่ 1 ตุลาคม 2567  โลกออนไลน์สะเทือนใจไปกับข่าวรถบัสนำนักเรียนจากโรงเรียนวัดเขาพระยา จังหวัดอุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้ระหว่างเดินทางไปทัศนศึกษา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก 

 

รถบัสนำนักเรียนจากโรงเรียนวัดเขาพระยา จังหวัดอุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้

 

นายทรงวิทย์ ชินบุตร ผู้เป็นบิดาของเจ้าของกิจการชินบุตรทัวร์ ให้สัมภาษณ์กับฐานเศรษฐกิจว่า รู้สึกตกใจมาก ตลอด 20 ปีที่ดำเนินกิจการ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้ ระหว่างนี้กำลังเร่งเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อดูแลสถานการณ์ด้วยตัวเอง
 

นายทรงวิทย์ยืนยันว่าบริษัทจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ โดยจะเร่งเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิต เขากล่าว พร้อมยืนยันว่ารถบัสคันดังกล่าวมีการทำประกันอย่างถูกต้องและผ่านการตรวจสอบสภาพตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง 

รถบัสนำนักเรียนจากโรงเรียนวัดเขาพระยา จังหวัดอุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้

 

อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดจากเจ้าหน้าที่ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้" นายทรงวิทย์กล่าวทิ้งท้าย

 

ขณะนี้ ทั้งตำรวจ กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุและสืบสวนหาสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ ติดตามความคืบหน้าได้ในรายงานต่อไป

เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการช่วยเหลือ

 

เปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท ชินบุตร เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด 
 

อนึ่งจากการตรวจสอบพบว่ารถบัสคันดังกล่าวเป็นของ บริษัท ชินบุตร เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด 

 

สำหรับ “ชินบุตรทัวร์” มีบริษัท ชินบุตร เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าของ จากการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนการค้า ผ่านระบบ Creden Data พบว่า บริษัท ชินบุตร เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556 รวมเป็นเวลากว่า 11 ปีที่บริษัทได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยมีทุนจดทะเบียนปัจจุบันอยู่ที่ 5 ล้านบาท

 

โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทมีลักษณะเป็นธุรกิจครอบครัว โดยมีนายจิรภัทร ชินบุตร ประธานหอการค้าจังหวัดสิงห์บุรี เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ด้วยสัดส่วน 60% ตามมาด้วยนางอรวรรณ ชินบุตร ที่ถือหุ้น 40% นอกจากนี้ยังมีสมาชิกครอบครัวอื่นๆ คือ น.ส.กนิษฐา ชินบุตร  และ น.ส. ปาณิสรา ชินบุตร ร่วมถือหุ้นคนละ 1 หุ้น

 

ด้านการบริหารงาน บริษัทมีกรรมการ 3 คน ได้แก่ นายจิรภัทร ชินบุตร นางอรวรรณ ชินบุตร และนางสาวปาณิสรา ชินบุตร โดยนายจิรภัทรและนางอรวรรณเป็นผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท

 

ผลประกอบการในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 13,322,417.32 บาท มีรายจ่ายรวม 10,881,797.32 บาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 2,101,782.94 บาท

 

แจง "ชินบุตรทัวร์" ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "ชินบุตรเอ็นจิเนียริ่ง"

จากนั้นวันที่ 3 ต.ค. 67 ทีมข่าวเนชั่นทีวีได้เดินทางไปที่บริษัทดังกล่าว ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณประมาณ 2 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด ด้านในเป็นบ้านพักที่อยู่อาศัย ที่อยู่ติดกับโรงกลึงเหล็ก ไม่มีลานจอดรถบัส ขนาดใหญ่ หรืออู่สำหรับติดถังก๊าซรถแต่อย่างใดด้านบนของโรงกลึงฯ มีการติดตัวอักษรสีน้ำเงินว่า ชินบุตร เอ็นจิเนียริ่ง

ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปสอบถามเพื่อขอข้อมูล แต่ทางบริษัทฯปฏิเสธไม่ให้ถ่ายภาพ และสัมพาษณ์ แต่ให้ข้อมูลว่า บริษัท ชินบุตร เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด  ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "ชินบุตรทัวร์" ซึ่ง บริษัท ชินบุตร เอ็นจิเนียริ่ง นั้น มีผู้ถือหุ้น4คน คือ

  1. นายจิรภัทร ชินบุตร ประธานหอการค้าจังหวัดสิงห์บุรี เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ด้วยสัดส่วน 60%
  2. นางอรวรรณ ชินบุตร ที่ถือหุ้น 40%
  3. นอกจากนี้ยังมีสมาชิกครอบครัวอื่นๆ คือ นางสาวกนิษฐา ชินบุตร (แม่)  และนางสาวปาณิสรา ชินบุตร ร่วมถือหุ้นคนละ 1 หุ้น โดยบริษัทฯทำเกี่ยวกับโรงกลึงเหล็กฯ

ส่วน "ชินบุตรทัวร์" มีนายทรงวิทย์ ชินบุตร (ผู้เป็นพ่อ) เป็นเจ้าของรถทัวร์ ซึ่งนำเนินการในนามบุคคล แต่เนื่องจากนายทรงวิทย์ มีรถบัสหลายคัน แต่กฎหมายกำหนดให้รถบัส 1 คัน มีผู้ถือครองได้ 1 คน นายทรงวิทย์ จึงได้ใช้ชื่อบุคคลในครอบครัวเป็นผู้ถือครองรถบัสที่มีอยู่ โดยมีตนเองเป็นผู้ดูแล ซึ่งจริงๆแล้วนางสาวปาณิสรา ก็มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่ได้ทำทัวร์

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุทุกคนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ นายทรงวิทย์ เจ้าของทัวร์ก็พยายามประสานงาน และให้ความรวมมือกับเจ้าหน้าที่อยากเต็มที่ และได้ส่งตัวแทนไปเยี่ยมครอบครัวผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่

ขณะเดียวกันก็ได้ส่งทีมงามไปดูแล ญาติของผู้เสียชีวิตด้วยเช่นเดี่ยวกัน เส้นทางบริษัทอยากชี้แจงว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องระหว่างชินบุตรเอ็นจิเนียริ่งและทัวร์ชินบุตร แต่อย่างใด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราเป็นครอบครัว เราจึงช่วยดูแลครอบครัว ผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ และทางและทุกคนก็เสียใจ

 

ทั้งนี้มีรายงานว่า นายทรงวิทย์ ประกอบอาชีพรถทัวร์มานานกว่า 30 ปีมีรถทัวร์ทั้งหมด 6 คัน  ซึ่งทั้ง6คันนั้นมีชื่อผู้ครอบครองเป็นบุคคลในครอบครัว 

  • รถบัสคันแรก ทะเบียน30-0427 สิงห์บุรี  ผู้ถือครองคือนายทรงวิทย์ ชินบุตร
  • รถบัสคันที่2 ทะเบียน 300411 สิงห์บุรี ผู้ถือครองคือ นางสาวปาณิสรา ชินบุตร
  • รถบัสคันที่3 ทะเบียน30-0412 สิงห์บุรี ผู้ถือครองคือ นายจิรภัทร ชินบุตร
  • รถบัสคันที่ 4 ทะเบียน 300357 สิงห์บุรี ผู้ถือครองคือ นางสาวกนิษฐา ชินบุตร
  • รถบัสคันที่5 ทะเบียน300438 สิงห์บุรี  ผู้ถือครองคือ นายณัฐพล ธรรมวิโรจน์ศิริ
  • รถบัสคันที่6 ทะเบียน 300423 สิงห์บุรี ผู้ถือครองคือ นางสาวปาณิสรา ชินบุตร(คันเกิดเหตุ)

ที่มาภาพ

  • NATION PHOTO