นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร
ให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำ และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ให้เฝ้าระวังระดับน้ำสูงขึ้นและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำในพื้นที่ทางตอนบนที่ไหลลงลุ่มเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าในวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2. จ.นครสวรรค์ จะมีประมาณ 2,200 - 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
รวมกับปริมาณน้ำ Sideflow 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลไปรวมกันเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จะมีปริมาณ 2,800 ลูกบาศก์เมตรวินาที จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาแบบขั้นบันไดในอัตราไม่เกิน 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ,วัดไชโย อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ,วัดสิงห์ วัดเสือข้าม อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ,อำเภอเมือง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี , ตำบลโพนางดำ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 60-70 เซนติเมตร และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน
สำหรับสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้ เมื่อเวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2. จ.นครสวรรค์ 2,363 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 98 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่ จ.ชัยนาท มีปริมาณ 2,381 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 57 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อน ที่ อ.เมืองชัยนาท สูงขึ้นจากเมื่อวาน 78 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 16.80 เมตร (รทก) น้ำระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1,999 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อน ที่ อ.สรรพยา สูงขึ้นจากเมื่อวาน 16 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 14.50 เมตร (รทก)