ดร.มนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางภาคเหนือของประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้ โดยในส่วนของถนนทางหลวงชนบท ปัจจุบัน (วันที่ 6 ต.ค. 67 เวลา 09.00 น.) มีถนนที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่
1. ถนนทางหลวงชนบทสาย ชม.3029 ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี (วงแหวนรอบกลาง) อ.เมือง จำนวน 2 แห่ง (ช่วง กม.ที่ 17+175 ถึง 17+600 และช่วง กม.ที่ 19+200 ถึง 20+400) ปัจจุบัน "รถผ่านไม่ได้" ระดับน้ำทรงตัวมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
2. ถนนทางหลวงชนบทสาย ชม.3035 แยก ทล.108 - บ้านร้อยจันทร์ อ.สันป่าตอง, หางดง (ช่วง กม.ที่ 16+700 ถึง 17+400) ปัจจุบัน "รถผ่านได้"
3. ถนนทางหลวงชนบทสาย ชม.2025 ถนนรัตนโกสินทร์ อ.เมือง (ช่วง กม.ที่ 1+250) ปัจจุบัน "รถผ่านไม่ได้" ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
โดยได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 10 (เชียงใหม่) และแขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด และให้ความร่วมมือในการบูรณาการกับหน่วยงานอื่นในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งบริหารจัดการเส้นทาง การจัดรถรับ - ส่งให้กับประชาชนในเส้นทางที่ยังสามารถสัญจรผ่านได้ การติดตั้งป้ายเตือน สัญญาณไฟจราจร จัดชุดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
สำหรับในส่วนของพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน แขวงทางหลวงชนบทแม่ฮ่องสอน รายงานว่ามีดินโคลนถล่มปิดทับถนนทางหลวงชนบทสาย มส.3018 แยก ทล.108 - บ้านน้ำเพียงดิน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน (ช่วง กม.ที่ 8+400) ปัจจุบันได้ดำเนินการนำเครื่องจักรกลเข้าดำเนินการเปิดเส้นทาง จนสามารถใช้การได้ชั่วคราว 1 ช่องจราจร เรียบร้อยแล้ว พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยแจ้งเตือนประชาชนเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย
ทั้งนี้ อธิบดีฯ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังได้กำชับให้บริหารจัดการความเสี่ยงพื้นที่ดินสไลด์ในถนนโครงข่ายทางหลวงชนบท โดยให้รีบเข้าดำเนินการทันทีหากมีเหตุดินสไลด์หรือต้นไม้ล้มกีดขวางการจราจร อย่างไรก็ตาม ทช. ยังมีการจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนติดตามระดับน้ำในพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมทุกภูมิภาค และเฝ้าระวังถนนในโครงข่ายทางหลวงชนบทสายทางอื่นควบคู่กันไปด้วย
ตลอดจนได้เตรียมเครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ สะพานเบลีย์ ยานพาหนะในการรับส่งผู้ประสบภัยในกรณีน้ำท่วมสูงในสายทาง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนได้ทันที หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุสามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบททั่วประเทศหรือติดต่อสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146