วันที่ 7 ตุลาคม 2567 กรมชลประทาน ได้รายงานสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาพร้อมทั้งแผนการปรับเพิ่ม -ปรับลดของเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
เนื่องจากปริมาณน้ำสะสมทางตอนบนเริ่มไหลลงสู่ลุ่มเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น กรมชลประทาน จำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดผ่านเขื่อนเจ้าพระยา โดยจะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพของพื้นที่ สำหรับการระบายน้ำในอัตราดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณ
แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น โดยกรมชลประทาน เผยว่าหากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป
สถานี C2 อ.เมืองนครสวรรค์
สถานี C13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ ปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ให้สอดคล้องกับการคาดการณ์น้ำท่าที่จะไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักฯ ซึ่งมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยจะทยอยปรับลดการระบายน้ำแบบขั้นบันได จาก 200 ลบ.ม./วินาที เป็น 150 ลบ.ม./วินาที ในวันที่ 7 ตุลาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. และจะปรับลดการระบายจาก 150 ลบ.ม./วินาที เป็น 100 ลบ.ม./วินาที ในวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์ ข้อมูล ณ วันที่ 6 ต.ค.67 มีปริมาณน้ำในอ่างฯประมาณ 657 ล้าน ลบ.ม. (68% ของความจุอ่าง) มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ 25.71 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณการระบาย 17.30 ล้าน ลบ.ม./วัน