ศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)รายงานสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เมื่อเวลา 12.00 น. โดยพบว่า
จากสถานการณ์ดังกล่าว จะส่งผลกระทบในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองโผงเผง คลองบางบาล แม่น้ำน้อย และพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณดังต่อไปนี้
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า การระบายน้ำขณะนี้ เมื่อนำไปเปรียบเทียบในปี พ.ศ. 2554 ระบายน้ำอยู่ที่ 3,703 ลบ.ม./วินาที จำนวนระบายน้ำ ยังไม่มีความน่ากังวลใจ อีกทั้งในสัปดาห์นี้ ในภาคเหนือ และ ภาคกลางมีปริมาณฝนเริ่มลดลงแล้ว ดังนั้นศปช.ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดน้ำท่วม เหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน
โดยส่วนราชการที่ บริหารจัดการน้ำในเขื่อนต่างๆ รายงานว่า ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาจะค่อย ๆ ลดลงตามลำดับ ส่งผลดีต่อการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำทะเลหนุนในช่วงวันที่ 13 – 24 ต.ค. นี้ ส่วนการเตรียมความพร้อมในพื้นที่กรุงเทพ – นนทบุรี ได้มีการเตรียมการป้องกันพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ เพื่อป้องกันการเอ่อล้นเข้าพื้นที่บ้านเรือนประชาชน
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.44 น.(วันที่ 9 ต.ค.67) กรมชลประทาน ได้ประกาศแจ้งว่า "พรุ่งนี้ 10 ต.ค. 67 เวลา 06.00 น. เขื่อนเจ้าพระยา จะเริ่มทยอยปรับลดการระบายน้ำ จากอัตรา 2,199 ลบ.ม./วินาที เหลืออัตรา 2,150 ลบ.ม./วินาที "