สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) เป็นหัวหอกสำคัญในการยกระดับการให้บริการและการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล
นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.)เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.พ.ร.ได้ขับเคลื่อนและผลักดันให้หน่วยงานของรัฐพัฒนาระบบการปฏิบัติงานและการให้บริการประชาชนในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มาอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้ โดยมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมทางดิจิทัล (Digital Ecosystem) ให้ไปสู่รัฐบาลดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับ e-Service ของหน่วยงานให้เกิดการให้บริการที่เป็นดิจิทัลเต็มรูปแบบ การส่งเสริมนวัตกรรมการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบ Digital by Design การเรียนรู้จากหน่วยงานที่ประสบความสำเร็จนำมาเป็นต้นแบบ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งหน่วยงานส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น
ทั้งนี้ได้กำหนดตัวชี้วัดเป็นกลไกการขับเคลื่อนได้แก่ การพัฒนาการให้บริการในรูปแบบ e-Service ทั้งการพัฒนาเป็นรายงานบริการ และการพัฒนางานบริการในรูปแบบ Agenda จำนวน 12 Agenda ซึ่งรวมการทำบัตรประชาชนดิจิทัล ที่เป็นอีกหนึ่ง Agenda ที่สำคัญ รวมถึงการพัฒนาข้อมูลให้เป็นดิจิทัลเพื่อนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ
“ระหว่างพัฒนาเรื่อง e-Service เราพบปัญหาที่สำคัญคือ มีกฎหมายที่เป็นอุปสรรคอยู่ 85 ฉบับ จึงได้แก้ปัญหาเหล่านั้น ด้วยการออก พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2565 ทำให้ประชาชนสามารถติดต่อเราทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ และเจ้าหน้าที่ภาครัฐก็สามารถสื่อสารกันเองด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ได้และเรายังออกวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อกำหนดให้มีมาตรฐานในการติดต่อสื่อสาร ทั้งด้านข้อมูล การสื่อสารการเชื่อมโยง และความปลอดภัย” นางสาวอ้อนฟ้ากล่าว
ทั้งนี้หลังจากพ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2565 สำนักงาน ก.พ.ร.ได้ขับเคลื่อนและผลักดันให้หน่วยงานของรัฐสามารถปรับเปลี่ยนและยกระดับการปฏิบัติงานและการให้บริการประชาชนในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาระสำคัญ 2 ส่วน ได้แก่
“หลังจากสถานการณ์โควิดเข้ามา ทุกหน่วยงานก็มีความพร้อมด้านดิจิทัล ส่งผลให้ความพึงพอใจในบริการของภาครัฐปรับโฉมทันที จากเดิมอยู่ที่ระดับประมาณ 70% แต่เมื่อเริ่มใช้บริการดิจิทัล ความพึงพอใจเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 80-85% และพบว่า การให้บริการทางออนไลน์มีความพึงพอใจสูง”
ด้านดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล หรือ DGA กล่าวว่า เมื่อพ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2565 ออกมาแล้ว ถือว่าเป็นการปลดล็อกข้อจำกัดของกฎหมายการพัฒนาไปสู่รัฐบาลดิจิทัล ซึ่ง DGA ในฐานะหน่วยงานกลางในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลดิจิทัล ได้จัดทำแนวปฏิบัติเกี่ยวกับวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับภาครัฐ ที่เป็นคู่มือการปฏิบัติตาม เพื่ออำนวยความสะดวกให้หน่วยงานในระดับต่างๆ สามารถดำเนินการตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ได้แก่
“การดำเนินการเหล่านี้ จะทำให้ราชการปฏิบัติตามพ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ และทำให้เราสามารถให้บริการประชาชนผ่านแอเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบดิจิทัลได้ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกประชาชนในการใช้บริการภาครัฐ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่หน่วยงานเพื่อยื่นคำร้องหรือไม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารที่ทำการร้องขอ และสามารถติดต่อ ตรวจสอบความคืบหน้ากระบวนการต่างๆ ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น ช่องทางอีเมล หรือการดาวน์โหลดจากแอปลพิเคชัน เว็บไซต์ของหน่วยงาน เป็นต้น และท้ายที่สุดประชาชนสามารถตรวจสอบใบอนุญาตเหล่านั้นได้” ดร.สุพจน์กล่าว
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,897 วันที่ 18 - 21 มิถุนายน พ.ศ. 2566