ด้าน นพ.ระวี มาศฉมาดล ตัวแทนพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า พรรคจะดำเนินการลดราคาน้ำมัน โดยยกเลิกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาดโลก ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลไม่ถึง 30 บาทต่อลิตร แม้ว่าราคาน้ำมันโลกจะปรับสูงเกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลก็ตาม พร้อมกันนี้จะปรับโครงสร้างราคาพลังงาน เพื่อให้ราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ลดลงได้ 5 บาทต่อถัง และลดราคาไฟฟ้า
รวมทั้งจะยกเลิกสัญญาสัมปทานที่ไม่เป็นธรรม และจะใช้นโยบายพลังงานคู่กับการเติบโตทางเศรษฐกิจด้านการเกษตร โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม อ้อย มันสำปะหลัง มาผลิตเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ตัวแทนพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า จะต้องปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP2018) ใหม่ โดยขยายเป้าหมายพลังงานทดแทนให้มากขึ้น จากปัจจุบันมีเป้าหมายเพียงแค่ 20% ซึ่งเห็นว่าเป็นตัวเลขที่ไม่สมจริง พร้อมทั้งสร้างการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการใช้รถขนส่งสาธารณะมากขึ้น
โดยพรรคเน้นด้านพลังงานหมุนเวียน การวางแผนสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนจะตั้งเงื่อนไข ว่า การทำต้นทุนพลังงานหมุนเวียนให้ลดลง เพื่อนำไปสู่การตั้งเป้าสัดส่วนพลังงานทดแทนแบบยืดหยุ่น เนื่องจากเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงเร็ว ขณะที่ ความมั่นคงด้านพลังงานจะเน้นการส่งเสริมการเจรจาแหล่งก๊าซที่เป็นพื้นที่ทับซ้อน เพื่อความมั่นคง โดยเป้าหมายหลัก คือ การลดการใช้ฟอสซิล
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ตัวแทนภูมิใจไทย กล่าาว่า แผนระยะสั้นที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานทดแทนให้ได้ปีละ 25% เป็นเวลา 4 ปี ทำให้ประเทศไทยมีพลังงานทดแทน 100% โดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ต้องเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยรัฐบาล ผลักดันการเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนดังกล่าว ด้วยการแปรรูปพืชพลังงานให้เป็นพลังงานน้ำมันและไฟฟ้า พร้อมทั้งผลักดันการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล B20 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 อย่างจริงจัง
นอกจากนี้ นโยบายพลังงานที่พรรคจะประกาศใน 4 ปี ต้องเพิ่มสัดส่วนพืชพลังงานปีละ 25% จากการศึกษาปัจจุบันรถรุ่นใหม่ สามารถรองรับพลังงานจากพืชพลังงานได้ แต่รถรุ่นเก่าต้องปรับเครื่องยนต์ แต่ใช้เงินไม่มากนัก รัฐจะต้องใช้เงินอุดหนุนเพื่อให้เป็นไปตามเป้า