“ชัชชาติ” มั่นใจคนเลือกเพื่อไทยถล่มทลาย เมิน “ประยุทธ์” ขึ้นปราศัย

เพื่อไทยคึกคัก ‘ชัชชาติ’ นำขบวนรถแห่หาเสียงทัวร์กทม. ยกสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ไม่กังวล ‘ประยุทธ์’ ขึ้นเวทีพปชร. เชื่อประชาชนตัดสินใจได้ พร้อมฝากถึงกกต. จับตาเลือกตั้งให้เกิดความโปร่งใส

บรรยากาศการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยเป็นไปอย่างคึกคัก ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ ในวันพรุ่งนี้(24มี.ค.) นำโดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สมัครเขต อาทิ นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ เขตห้วยขวาง-ดินแดง เบอร์ 13 นายประพนธ์ เนตรรังสี เขตจตุจักร เบอร์ 3 นายวัฒนรักษ์ นายวัฒนรักษ์ สุรยาทยุทธ์ เขตดุสิต เบอร์ 17 และนางลีลาวดี วัชโรบล เขตพระนคร เบอร์ 9

โดยเริ่มปล่อยขบวนรถแห่หาเสียงที่ทำการพรรคเพื่อไทย ทักทายประชาชนเดินตามเส้นทางบนถนนรัชดาภิเษกและวิภาวดีรังสิต โดยมีประชาชนโบกมือทักทายและจับให้กำลังใจคณะหาเสียงของนายชัชชาติ

ทั้งนี้ นายชัชชาติ เปิดเผยถึงการปราศรัยใหญ่เมื่อวานนี้ (22มี.ค.) ว่าเป็นการเน้นย้ำจุดยืนและแนวทางของพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ประกาศมาตลอดในช่วงฤดูหาเสียง พร้อมกับได้รณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์อย่างไรก็ดีนายชัชชาติ กล่าวถึงกรณีมีหลายพรคคอ้างเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ว่า ไม่ได้มีความกังวลว่าจะทำให้คะแนนเสียงแตก เพราะเชื่อว่าประชาชนที่ตัดสินใจเลือกผู้สมัครของพรรค เชื่อมั่นในอุดมการณ์เพื่อไทย

เมื่อถามถึงการขึ้นเวทีปราศรัยของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. แคนดิเดตนายกฯพรรคพลังประชารัฐ ว่าก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ และไม่ได้กังวลแต่อย่างใด ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน ว่าตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เกิดอะไรในบ้างเมือง

ส่วนความคาดหวังต่อผลการเลือกตั้งครั้งนี้ นายชัชชาติกล่าวด้วยความมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย เพราะเชื่อว่าที่ผ่านมามีผลงานพิสูจน์แล้วว่าสามารถเปลี่ยนแปลง และทำให้เกิดผลงานเป็นรูปธรรม ผ่านฝีมือทีมบริหารอาชีพที่มีประสบการณ์

ส่วนการสังเกตการณ์การเลือกตั้งในพรุ่งนี้ ทางพรรคเพื่อไทยจะส่งคนไปเฝ้าจับตาหน่วยละหนึ่งคน ตามข้อกฎหมายและฝากให้ประชาชน และสื่อมวลชนช่วยเป็นหูเป็นตาเพราะการเลือกตั้งมีผลกับประชาชนทุกคน

ทั้งนี้ต้องฝากไปถึงกกต. ให้ทำเรื่องที่สำคัญ อย่าให้ความสนใจกับเรื่องที่ไร้สาระ เพราะตอนนี้มีกระแสข่าวว่าในหลายพื้นที่มีการซื้อเสียง ซึ่งในประเด็นนี้กกต.ต้องเร่งรัดจัดการให้เกิดความโปร่งใส เพื่อสร้างความั่นใจว่าการเลือกจะไม่เกิดการทุจริตและเป็นธรรม ตามที่หลาายมีความกังวล