หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 1 ชี้ว่าการที่ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เดินทางลงไปตรวจสอบพื้นที่การก่อสร้างคอนโดมิเนียม เมื่อวันที่ 18-19 ส.ค.2562 ที่ จ.ภูเก็ต และได้มีการแสดงพฤติกรรมและใช้วาจาไม่เหมาะสม กับ พ.ต.ท.ประเทือง ผลมานะ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.กะรน ผู้บริหารเทศบาลตำบลกะรน ไม่เข้าลักษณะเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ ส.ส. เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติราชการ หรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รับถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 185(1) จนเป็นเหตุให้สมาชิกภาพความเป็น ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(7)
นายสิระ ให้สัมภาษณ์หลังรับฟังคำวินิจฉัยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ว่า ขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ยังให้เป็นส.ส.อยู่ จะนำคำวินิจฉัยไปปรับปรุงการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ประชาชนทั้งประเทศให้มากที่สุด เพราะศาลวินิจฉัยว่า การเป็นส.ส.ของปวงชนชาวไทย ถ้าทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนและรัฐ ทำที่ไหนก็ได้
ดังนั้น ที่บอกว่าเป็นส.ส.ของเขตหลักสี่ ไม่ใช่ส.ส.ของจ.ภูเก็ต ก็ต้องเข้าใจแล้วว่า ตนเป็นส.ส.ของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่ส.ส.เฉพาะเขต
ส่วนผู้ที่ร้องเรียนเรื่องนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตนถือว่าเราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติเหมือนกัน การจะร้องอะไรก็ต้องรับผลตามมา ดูว่าผู้ถูกร้องได้รับความเดือดร้อนหรือไม่ มีการเซ็นต์ชื่อกันกว่า 50 คน ได้มีการอ่านคำร้องหรือไม่ เบื้องต้นได้ให้ฝ่ายกฎหมายดูว่าความผิดของผู้ร้องมีอะไรบ้าง จะได้เป็นบรรทัดฐานในการเซ็นชื่อร้องโดยที่ไม่สอบข้อเท็จจริง
“ผมถือว่าวันนี้ได้ทำประโยชน์กับประเทศ คอนโดฯ ที่ลงพื้นที่ในจ.ภูเก็ต ก็ได้ถูกระงับการก่อสร้าง ก็รออีกนิดนึงว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นหรือไม่ ที่ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ทั้งนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ต้องรับผิดชอบ ถ้ามีอีกไม่ใช้เฉพาะกรณีนี้ ผมพร้อมที่จะไปตรวจสอบ”
นายสิระ กล่าวว่า ถ้าพบว่าผู้ร้องมีเจตนา หรือความผิดสำเร็จตามมาตรา 157 จะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ลงรายชื่อทั้งหมด เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างกับส.ส. ที่ไม่ใช่ว่าจะร้องใครก็ร้อง และไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย เราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ออกกฎหมายให้คนทั้งประเทศใช้ ฉะนั้นส.ส.จะต้องรับผิดชอบต่อตัวท่านเองด้วย มิฉะนั้นประชาชนจะให้ความเชื่อถือส.ส.ได้อย่างไร
“งานนี้ถ้าพบผิดจริง ผมเอาคืนแน่ ไม่ใช่เรื่องการจองเวรจองกรรม แต่เป็นเยี่ยงอย่างไม่ให้ไปกระทำกับรายต่อไป ไม่ว่าท่านนั้นจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน" นายสิระ ระบุ
สำหรับคดีนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งความเห็นของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน 57 คน ขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกสภาพการเป็น ส.ส.ของนายสิระ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (7) ประกอบมาตรา 185 (1) หรือไม่