"สมคิด" เผยพร้อมทุกอย่างตั้งแต่ปีที่แล้ว โยนปรับครม.อยู่ที่นายกฯ
"สมคิด" เผยพร้อมทุกอย่างตั้งแต่ปีที่แล้ว ชี้การเมืองดีย่อมส่งผลดีต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจ โยนปรับครม.เป็นอำนาจนายกฯ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ เพื่อหารือแนวทางการช่วยเหลือและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ถึงกรณีรัฐมนตรีกลุ่ม 4 กุมารลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานในรัฐบาล เพราะเป็นเรื่องปกติภายในพรรค และจากการรับฟังคำแถลงลาออกก็ยังเป็นมิตรที่ดีต่อกัน เป็นการจากกันด้วยดี ส่วนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้นเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการพิจารณตามความเหมาะสม
"ไม่ได้มีอะไร ไม่ได้ปรึกษา เป็นเรื่องในพรรค เป็นเรื่องปกติ ฟังจากคำแถลงถือเป็นการแถลงที่ดี ที่เป็นมิตรต่อกัน เป็นการจากกันด้วยดี ก็แค่นั้น " นายสมคิดกล่าว และว่า
ข่าวเกี่ยวข้อง
"นายกฯ" ส่งสัญญาณ "ปรับครม." ดึงคนนอก นั่ง "หน.ทีมเศรษฐกิจ"
เส้นทาง “4 กุมาร”ก่อนไขก๊อกพ้น พปชร.
"4 กุมาร" แถลงลาออกจากพปชร. ลั่น "ภูมิใจได้ทำหน้าที่"
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่นำมาเปรียบเทียบว่า"เสร็จนาฆ่าโคถึก" เพราะกลุ่ม 4 กุมารที่ร่วมก่อตั้งพรรค พปชร.ได้แถลงวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในการลาออกจากพรรค ภายหลังภารกิจบรรลุวัตถุประสงค์ทุกอย่างแล้ว ส่วนตนเองหลังจากนี้จะดูแลเรื่องสุขภาพให้ดี
นายสมคิด ยอมรับว่า ปัญหาการเมืองจะส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ หากการเมืองดี เศรษฐกิจก็จะดี สังคมก็จะดี ดังนั้นต้องพยายามดูแลการเมืองให้ดี ซึ่งการจะตั้งรัฐมนตรี เชื่อว่านายกรัฐมนตรีต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ว่าใครเหมาะสมทำงานอะไร โดยให้ยึดบ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนใครจะมาจะไปเป็นเรื่องปกติ
"ผมพร้อมของผมตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะอายุมากแล้ว ใจผมถอดไปหลายปีแล้ว" ต่อข้อถามว่า ที่ระบุว่าอายุมากแล้ว หมายถึงมีคนแทนแล้วใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ และเลื่อนการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ออกไปนั้น นายสมคิด กล่าวว่า เป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่นายกรัฐมนตรีจะได้รับทราบข้อมูลจากภายนอกอย่างเพียงพอ ก่อนที่จะพิจารณามาตรการต่างๆออกมา ซึ่งเบื้องต้นการประชุมวันนี้จะมีทั้งภาคเอกชน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ได้เตรียมข้อมูลมาทั้งหมดแล้ว โดยประเด็นที่นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจมากที่สุด คือการช่วยเหลือกลุ่ม SME และมาตรการของกระทรวงการคลังได้เตรียมไว้พร้อมแล้วก่อนนำเข้า ครม.ต่อไป เพื่อให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที เช่นเดียวกับกระทรวงอื่นๆ ที่จะพิจารณาหามาตรการช่วยเหลือ ทั้งกลุ่มเกษตรกร ปัญหาการว่างงาน การค้าการลงทุน โดยทุกกระทรวงมีความเกี่ยวข้องจึงต้องทำงานร่วมกัน