วันนี้ (12 กรกฎาคม 2563) ที่จังหวัดนครราชสีมา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางไปกราบสักการะท้าวสุรนารี (ย่าโม) คุณย่าบุญเหลือ และท่านท้าวปลัดทองคำ ที่วัดศาลาลอย ท่ามกลางประชาชาจำนวนมากที่เดินทางมากราบสักการะคุณย่าโม
นายเทวัญ กล่าว่า คุณย่าทั้งสองท่านเป็นที่เคารพรักบูชาของชาวโคราช ตนเองและครอบครัวก็ถือโอกาสมากราบคุณย่าอีกครั้งเหมือนที่เราเคยมาเป็นประจำ
ส่วนเรื่องรายการ "ช่องส่องผี" ทราบว่าผู้ดำเนินรายการทั้งสามคน คือนายเชษฐวุฒิ วัชรคุณ หรือ บ๊วย น.ส.สุรประภา หิรัญปุณญะโชติ หรือ อ.เรนนี่ และนายศราวุฒิ วรพัทธ์ทวีโชติ ประสงค์ที่จะมากราบขอขมาคุณย่าก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเมื่อเขาสำนึกผิดแล้วผมว่าชาวโคราชเราก็พร้อมที่จะให้อภัยกับเรื่องนี้ แต่ในเรื่องกระบวนการของกฎหมายก็ต้องว่ากันไปตามนั้นต้องไปดูกันในเรื่องข้อกฎหมายและทราบมาว่ารายการนี้ยังไปบิดเบือนประวัติศาสตร์ของพระเจ้าตากสินมหาราช และไปที่ระยองของท่านสุนทรภู่ด้วย
ประเด็นนี้ต้องมีหน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะเป็นกสทช.หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องเข้าไปดูเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก ใครจะทำรายการอะไรก็แล้วแต่ถ้าไปบิดเบือนประวัติศาสตร์แล้วไม่มีใครดำเนินการเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะเป็นเรื่องสำคัญ
โดยเฉพาะประเด็นเมื่อทำผิดแล้วหยุดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แต่ย้ายไปออกอากาศทางช่องยูทูปหรือโซเชี่ยลมีเดียช่องทางอื่นก้เองให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบด้วยว่ากระทำได้หรือไม่อย่างไร
ในส่วนของสำนักพุทธศาสนาได้มีจดหมายไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกสทช.ว่าทางเรายินดีให้ความร่วมมือและได้ให้สำนักพุทธศาสนาทุกจังหวัดประสานไปกับทุกวัดว่าถ้ามีกรณีรายการขอมาถ่ายทำที่วัดรายการอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับทัศนะแบบนี้ คือ ลบหลู่ บิดเบือนประวัติศาสตร์ขอให้พิจารณาไม่อนุญาต แต่ถ้าเป็นรายการลักษณะส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงศาสนา ประวัติศาสตร์ก็ยินดี
ในเรื่องข้อกฎหมายคิดว่าใครทำผิดก็ต้องว่าไปตามกระบวนการกฎหมายแต่เรื่องนี้ได้ประสานไปยังกรมศิลปกรด้วย ซึ่งเป็นคนดูแลหอประวัติของประเทศไทยแล้วทางจังหวัดได้ประสานไปทางญาติของคุณย่าโม และมีกำนันผู้ใหญ่บ้านผู้นำท้องถิ่นหลายคนที่ไปแจ้งความร้องทุกข์ก็ต้องไปดูรายละเอียดตรงนั้น
“วันนี้ถ้าเค้ามีความประสงค์ที่จะมาขอขมาแสดงว่าเค้ารู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิดซึ่งชาวโคราชก็รู้สึกว่าเค้าสำนึกผิดแล้ว ส่วนเรื่องขบวนการของข้อกฎหมายก็ต้องว่ากันไป”
นายเทวัญ กล่าวและย้ำว่า วันนี้ผมคิดว่าพี่น้องประชาชนคงจะทราบแล้วว่า รายการแบบนี้เหมาะสมหรือไม่ จะดูรายการอะไรต้
องวิเคราะห์พิจารณา โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อ ความศรัทธาของคนไทย เป็นสิ่งสำคัญ