วันนี้ (25 ส.ค.63) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เปิดเผยว่า ที่ประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯทั้ง 7 คนของพรรคประชาธิปัตย์ ไปหารือกับกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล ในการเสนอให้รัฐบาล ให้กองทัพเรือทบทวน นำวาระจัดซื้อเรือดำน้ำ ออกไปจากวาระการพิจาณาของกมธ.งบประมาณฯ ชุดใหญ่ ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ เพราะเห็นว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจสำคัญกว่า แต่ถ้าทางกองทัพเรือยังยืนยันที่จะเอาเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำเข้าสู่วาระการประชุม กมธ.งบฯ ทั้ง 7 คนของพรรคประชาธิปัตย์ก็มีท่าทีไม่สนับสนุนให้ผ่านงบประมาณการจัดซื้อเรือดำน้ำ
ขณะเดียวกัน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประสานไปยังนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งให้ครม.รับทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์ คิดอย่างนี้
ด้านนายชัยชนะ เดชเดโช รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 จากสัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มีมติขอให้รัฐบาลชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ วงเงิน 22,500 ล้านบาท ออกไปก่อน เนื่องจากประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และภัยการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงควรนำงบประมาณส่วนนี้มาช่วยเหลือประชาชนเรื่องความเป็นอยู่ เรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ และได้แจ้งมติพรรคประชาธิปัตย์ไปยังผู้ประสานงานของพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว
ส่วนแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ที่อาจจะวอร์คเอ้าท์หรือลงมติสวนทาง หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่เอาด้วย นายชัยชนะ กล่าวว่า ต้องรอให้ถึงเวลานั้นก่อน แต่ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง ยึดมั่นในสิ่งที่เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในหลักการนี้มาตลอด ว่าการพิจารณาเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ต้องยึดหลักการและเหตุผล และประโยชน์ของประชาชน หากฝ่ายรัฐบาลยังยืนยันจะเสนอของบจัดซื้อเรือดำน้ำ พรรคประชาธิปัตย์ก็คงมีคำตอบให้อยู่แล้ว แต่ต้องรอดูความชัดเจนพรุ่งนี้ เพราะเหตุการณ์ยังไม่มาถึง
เรื่องนี้จะกระทบถึงต้องทบทวนการร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่เข้าข่ายจะต้องทบทวนการร่วมรัฐบาล เพราะยังไม่มีการทุจริตอะไรเกิดขึ้น พร้อมย้ำว่าเรือดำน้ำก็มีความสำคัญในการปกป้องอาณาเขตของประเทศ แต่ยังไม่ใช่เวลานี้ จึงต้องชะลอไว้ก่อน
ก่อนหน้านั้น ได้มีการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โดยมี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ในฐานะประธาน ส.ส.พรรค ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยมี ส.ส.พรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง รวมถึงกมธ.งบประมาณปี 64 ในสัดส่วนของพรรคทั้ง 7 คน เข้าร่วมชี้แจง และรับฟังเหตุผลด้วย
โดยมี ส.ส.หลายคน อาทิ นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายชัยวุฒิ บรรวัฒน์ ส.ส.ตาก นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ลุกขึ้นอภิปราย
ส่วนใหญ่คัดค้านการจัดซื้อเรือดำน้ำในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แม้ไทยจะควบคุมการแพร่ระบาดได้ แต่ยังระบาดในต่างประเทศ ที่หลายชาติเกิดระบาดรอบสอง และเห็นว่าวิกฤติเศรษฐกิจตั้งแต่ภาคครัวเรือน ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและเล็กรอการช่วยเหลือ และปิดตัวลงมากซึ่งมีความสำคัญมากกว่าที่รอการแก้ไขและสนับสนุนให้ฟื้นตัว ให้ผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้ก่อน
นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี กล่าวว่า ส่วนตัวสอบถาม กมธ.งบปี 64 ของพรรค ว่า นอกจากเหตุผลการชี้แจงของ ทร.ถึงด้านความมั่นคงแล้ว ยังมีเหตุผลอื่นอีกหรือไม่ รวมถึงข้อตกลงของไทย-จีน ถ้าเรายกเลิกการจัดซื้อจะเสียหายหรือไม่ สำหรับตนเห็นว่า ถ้าไม่เสียหายก็ควรยกเลิกการจัดซื้อไปเลย ไม่ใช่แค่ชะลอ
ส่วนเพื่อน ส.ส.คนอื่นๆ เห็นควรให้ ทร.ชะลอการจัดซื้อออกไปก่อนก็สุดแล้วแต่ แต่ถ้าทาง ทร.ยังดันเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม กมธ.งบ 64 ชุดใหญ่อีก ตนก็ขอสงวนสิทธิ์ในการอภิปราย และโหวตสวนในวาระ 2-3 หากมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ในที่สุดที่ประชุมจึงมีมติให้ กมธ.งบ 64 ชุดใหญ่ทบทวนในกรณีนี้ ว่าพรรคไม่สนับสนุนในการจัดซื้อเรือดำน้ำของ ทร.ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ