17 ตุลาคม 2563 นางสาวนภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย โพสต์เฟซบุ๊คใจความว่า วันนี้หลังรัฐบาลประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายเเรงเพื่อควบคุมการชุมนุมของคณะราษฎร 2563 ว่า
"การนำกองกำลังทหารเข้าควบคุมอาคารรัฐสภา พร้อมขอให้กมธ. ยุติการประชุมเกี่ยวกับร่างกฎหมายหรือเกี่ยวกับการเมือง ไม่ต่างอะไรจากการรัฐประหารเงียบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจยันสลายม็อบไม่มีการใช้กระสุนยาง-แก๊สน้ำตา
"บิ๊กตู่"แจงสลายม็อบตามหลักสากล
ฝ่ายค้านประณามรัฐใช้กำลังสลายการชุมนุม
"ทิพานัน"จี้ถาม "ปิยบุตร"อยู่ไหน ไม่ละอายใช้เด็กเป็นกำบัง
หากสภาอันทรงเกียรติยังนิ่ง และ ไม่ยอมรักษาพื้นที่นิติบัญญัติของตัวเองเอาไว้ จากรัฐประหารเงียบ ก็อาจกลายเป็นรัฐประหารจริงได้
อำนาจอธิปไตย มี 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายตุลาการ คือ ศาล ,ฝ่ายบริหาร คือ คณะรัฐมนตรี , ฝ่ายนิติบัญญัติ คือ รัฐสภา
หาก “รัฐสภา” ซึ่งเป็นอำนาจนิติบัญญัติ แต่กลับถูกควบคุมโดยกองกำลังทหาร ประมุขนิติบัญญัติจะว่าอย่างไร สภาผู้แทนราษฎร จะยอมให้ฝ่ายความมั่นคง สั่งได้จริง ๆหรือ
ขอเรียกร้อง ท่านชวน หลีกภัย ในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ และเป็นคนที่เคยกล่าวอมตะวาจาว่า "ผมเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา" รีบแสดงจุดยืนเรื่องการใช้เวทีสภาหาทางออกให้กับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ก่อนที่จะมีความรุนแรงเกิดขึ้น
นอกจากจะไม่ใช้เป็นเวทีหาทางออกจากสถานการณ์วิกฤตประเทศแล้ว ยังยอมให้ทหารเข้าครอบงำอีก ศักดิ์ศรีตัวแทนจากประชาชน หมดไปทันที
วันนี้ พรรคเสรีรวมไทย ร่วมลงชื่อ ขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อหารือในเรื่องศักดิ์ศรีของฝ่ายนิติบัญญัติ และมาตรการของรัฐกับการปราบปรามผู้ชุมนุมที่รุนแรงเกินไป และ การประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน มาตรา 5, 9, 11, 12 เพื่อการใช้เวทีสภาหาทางออกให้กับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง" น.ส.นภาพรกล่าว ในเฟซบุ๊ค