24 ตุลาคม 2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีข้อเรียกร้องของกลุ่มคณะราษฎรว่า รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงก็จะเข้าไปดูแต่หลักใหญ่ที่เราเคยพูดกันไว้ก็คือ รัฐบาลไม่ประสงค์จะใช้ความรุนแรงใดๆ
เพราะฉะนั้น ถ้าทุกฝ่ายมีเป้าหมายตรงกันว่าต้องการยึดแนวทางสันติไม่ใช้ความรุนแรงทุกอย่างก็น่าจะผ่านพ้นไปได้และถ้ามีประเด็นไหนค้างคาก็สามารถที่จะพูดจากันเพื่อที่จะหาทางออกร่วมกันซึ่งในการประชุมสภาสมัยวิสามัญ
“ผมได้เสนอทางออกไปแล้วว่า อย่างน้อยในส่วนของประชาธิปัตย์เราก็อยากเห็นผลของการประชุม 2 วันในการเปิดประชุมวิสามัญนั้นได้ข้อสรุปในการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาชุดหนึ่ง ประกอบด้วยทั้งคนในคือ ส.ส.รัฐบาล ส.ส. ฝ่ายค้านสมาชิก วุฒิสภา และบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้มาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน อะไรที่มีความเห็นพ้องหรือเป็นความเห็นที่ตรงกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องเร่งรีบในการนำไปปฏิบัติให้บรรลุผล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กต.แจง "ยูเอ็น"ถึงสถานการณ์ชุมนุมในไทย
"ธนกร"แนะเลิกแนวคิดปฏิรูปสถาบัน ใช้เวทีรัฐสภาแก้ปัญหา
ตำรวจพึ่งศาลขอออกข้อบังคับสั่งม็อบเลิกชุมนุมหน้าเรือนจำ
ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกัน "สมยศ"คดีชุมนุม 19 กันยา
ส่วนอะไรที่ยังไม่ตรงกัน ยังเห็นแย้งกันอยู่ ก็ใช้เวลานิดนึงในการที่จะคุยกันต่อไป ด้วยเหตุด้วยผลเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป
ถ้าเป็นแนวทางนี้ผมคิดว่าบ้านเมืองก็จะเดินหน้าต่อไปได้ ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาของเราก็ยังเดินหน้าได้ และจะได้เห็นชัดว่ารัฐสภาก็จะเป็นที่พึ่งและเป็นเวทีหาทางออกให้กับประเทศได้อย่างแท้จริง เพราะผมเชื่อว่าทุกฝ่ายก็อยากมีประชาธิปไตยเกิดขึ้น ถ้าเราอยากเห็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นจริงๆ เดินหน้าต่อได้จริงๆ เราต้องช่วยกันใช้รัฐสภาเป็นวิธีร่วมกันในการแสวงหาทางออก” นายจุรินทร์กล่าว
ส่วนที่บางฝ่ายมีความคิดว่ารัฐบาลต้องการเปิดสภาวิสามัญเพื่อที่จะมาถล่มฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะการเปิดสภาสมัยประชุมวิสามัญนั้นเกิดจากเสียงเรียกร้องของทุกฝ่าย ประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคการเมืองหนึ่งที่แถลงตั้งแต่เบื้องต้นว่าเราอยากเห็นการเปิดสภาสมัยวิสามัญเกิดขึ้น วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน วิปวุฒิสมาชิกก็ไปหาหรือร่วมกันกับ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาก็เห็นตรงกันว่า อยากให้เปิดสภาวิสามัญ เพราะฉะนั้นรัฐบาลจึงคิดว่าถ้าจะได้เป็นเจ้าภาพก็จะทำให้ทุกอย่างเกิดเร็วขึ้น เพราะเมื่อรัฐบาลเป็นเจ้าภาพเปิดสภาสมัยวิสามัญ ครม. ก็สามารถเสนอได้เลย ไม่ต้องรอให้พรรคการเมืองต่างๆ ต้องใช้เวลาในการไปล่ารายชื่อสมาชิกรัฐสภาเพื่อมาลงชื่อ กว่าจะครบ ก็จะทำให้ต้องใช้เวลาล่วงเลยไป
“จึงถือว่าเป็นเจตนาดีของรัฐบาลและรัฐบาลก็ได้เสนอชัดเจนว่าเมื่อเปิดสภาแล้ว ก็อยากให้ใช้มาตรา 165 เพื่อนำญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อรับฟังความเห็นของสมาชิกโดยไม่มีการลงมติ ซึ่งจะช่วยให้ทุกฝ่ายสามารถนำความเห็นต่างๆ ไปพูดคุยกันได้ และแสวงหาทางออกร่วมกันได้ เพื่อให้รัฐสภาและเป็นวิธีหาทางออกให้ประเทศได้อย่างแท้จริง
ทั้งหมดเป็นเจตนาดีของรัฐบาลไม่ได้เป็นเจตนาร้ายแต่อย่างใดทั้งสิ้น เรื่องนี้ผมเป็นคนหนึ่งที่ยืนยันได้เพราะเป็นผู้เสนอเองในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และขณะเดียวกันก็นั่งอยู่ในคณะรัฐมนตรี แล้วก็ให้การสนับสนุนด้วย เพียงแต่ขอให้ทุกฝ่ายใช้เหตุใช้ผลในการอภิปรายและจริงใจในการที่จะร่วมกันเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ” นายจุรินทร์กล่าว