วันนี้(16 พ.ย.63) นายอานนท์ แสนน่าน ในฐานะผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางตนได้รับการประสานงานจาก นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ตน และ “อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน ร่วมกับ หลวงปู่พุทธะอิสระ หรือ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม และกองทัพประชาชนปกป้องสถาบัน ร่วมจัดงาน “รวมลานบ้าน ชวนกินข้าว ฟังเรื่องเล่าพระเจ้าอยู่หัว” นำร่องในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดร้อยเอ็ด” ที่เป็นพื้นที่คนเสื้อแดงเก่า
ทั้งนี้ ได้รับความร่วมจากตัวแทนอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงจากอำเภอต่าง ๆ ร่วมกิจกรรมกันเป็นอย่างดี ทุกครั้งที่ตนได้ขึ้นเวทีปราศรัยพูดคุยกับประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมจะบอกเสมอว่า “...วันนี้อยากให้ประชาชนชาวไทยทราบว่า ถ้าไม่มีพระมหากษัตริย์ไทย คงไม่มีแผ่นดินให้ คนรุ่นใหม่ได้มีที่ยืนในวันนี้คงเป็นทาสของต่างชาติ หรือไม่ก็จะไม่มีชาติให้ได้ภาคภูมิใจเหมือนเช่นทุกวันนี้ เพราะการที่พวกเรายุบและสลายหมู่บ้านเสื้อแดง เข้ามาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเป็นเครือข่าย “รวมไทยสร้างชาติ เรารักประเทศไทย” ก็เพื่อต้องการที่จะทำงานด้วยจิตอาสาเพื่อชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์
เพราะที่ผ่านมาพวกเราเป็นคนเสื้อแดง และแยกออกมาเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ก็จะใช้สโลแกนที่ว่า “หมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” เพราะพวกเราซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระมหากษัตริย์ไทย และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ตนและคณะหมู่บ้านเสื้อแดง ได้เฝ้ารับเสด็จ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” และ “พระบรมราชินี” พร้อมกับได้กราบทูลพระองค์ท่านว่าเราจะขอเป็น “หมู่บ้านเสื้อแดงรักษาพระองค์” ขอเป็นข้าไต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ตลอดไป จึงได้นำเอาพระราชดำรัสที่ในหลวงทรงรับสั่งเอาไว้มาเล่าให้อดีตสมาชิกหมู่บ้านเสื้อแดงได้รับฟัง...”
ทั้งนี้ ตนในฐานะผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย หลวงปู่พุทธะอิสระ และแกนนำแต่ละอำเภอ ได้ร่วมยื่นหนังสือต่อตัวแทนของผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ เพื่อส่งไปถึงนายกรัฐมนตรี
นายองอาจ วิเศษ ตัวแทนกองทัพประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ภาคอีสาน ได้อ่านแถลงการณ์ว่า กองทัพประชาชนเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอนำส่งหนังสือถึง ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกร้องมิให้ แก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญในหมวดพระมหากษัตริย์ และ เร่งรัดดําเนินคดีต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่จาบจ้วง ด้อยค่าสถาบัน พระมหากษัตริย์พร้อมทั้งเร่งรัดปฏิรูปกระบวนการศึกษาของชาติให้สอดคล้อง กับขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีและวัฒนธรรมของคนในชาติผ่าน "ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด" ข้อเรียกร้อง กองทัพประชาชนเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จังหวัดร้อยเอ็ด
ข้อ 1 เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่มี การเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญฉบับนี้มาจากการทํา ประชามติของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ หากจะทําการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ รัฐบาลต้องจัดทําประชามติ เพื่อให้ประชาชน ตัดสินใจว่าเห็นชอบหรือไม่ เห็นชอบ เพราะอํานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่เป็นของประชาชน กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง และห้ามแก้ไขในหมวดพระมหากษัตริย์ทุกมาตรา
ข้อ 2 ขอให้รัฐบาลจัดการปฏิรูปหลักสูตรกระบวนการศึกษาให้สอดคล้อง กับขนบธรรมเนียม จารีตประเพณีและวัฒนธรรมของไทย เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดี แฝงเข้ามาบ่อนทําลาย รากเหง้าของชนเผ่าไทย
ข้อ 3 เรื่องขอให้รัฐบาลดําเนินการ กับบุคคล คณะบุคคล หรือกลุ่มการเมืองที่จาบจ้วงล่วงเกินหมิ่นประมาท ด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ตามบทบัญญัติของกฎหมาย "กองทัพประชาชนเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ภาคอีสาน"
นับได้ว่าเป็นการตอบรับของสมาชิกอดีตหมู่บ้านเสื้อแดงในภาคอีสานเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะนำร่องเพียง 2 จังหวัดเท่านั้นเองและอาทิตย์นี้จะเดินทางไปนำร่องทางภาคเหนือ ต่อไปทางภาคใต้ และ ภาคกลาง เพื่อให้สมาชิกอดีตหมู่บ้านเสื้อแดง และ ประชาชน ออกมารวมพลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยต่อไป