นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงท่าทีของพรรคต่อสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทวีคูณ เข้าขั้นวิกฤติ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่ ศบค.ต้องทำทันที ได้แก่
1. บุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดต้องได้รับวัคซีน mRNA ก่อน วัคซีนไฟเซอร์ที่ระบุว่าจะเข้ามาในไทย 1.5 ล้านโดส มีจำนวนเพียงพอที่จะจัดสรรให้แพทย์พยาบาล ซึ่งเป็นด่านหน้าในตรวจรักษา พวกเขาต้องมีเกราะที่แข็งแรงในการป้องกันตนเอง และจะช่วยรักษาระบบสาธารณสุขไม่ให้พังทลายลง
2.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค.ต้องหยุดรวบอำนาจ กลับมาใช้กลไกปกติในการบริหารสถานการณ์วิกฤติ โดยส่วนกลางมีหน้าที่เสนอนโยบายเท่านั้น เพื่อให้ในแต่ละพื้นที่ซึ่งมีความเข้าใจสถานการณ์การระบาดซึ่งมีความแตกต่างกันกันได้บริหารจัดการได้อย่างคล่องตัว
3. นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงบางคน รวมถึงนักวิชาการผู้ใหญ่ที่คอยปกป้องรัฐ ต้องกลับมาทำหน้าที่ดูแลประชาชน ไม่ใช่แค่เอาใจผู้บังคับบัญชา
โดยทางพรรคเพื่อไทยจะใช้วิธีการทางกฎหมายในการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดการระบาด พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารราชการที่ผิดพลาดดำเนินการทางกฎหมาย
4.รัฐต้องร่วมมือกับภาคเอกชนในการรับมือวิกฤติการระบาดในด้านต่างๆ โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพ เช่น การลำเลียงผู้ป่วย การลำเลียงอาหารให้กับแคมป์คนงาน หรือ สถานประกอบการที่ถูกสั่งปิด อาจใช้บริการเดลิเวรีของภาคเอกชนเข้ามาร่วมด้วย
และ 5.เปิดเสรีในการนำชุดตรวจ Self rapid test มาใช้ในการตรวจหาเชื้อในเบื้องต้นให้กับประชาชน จัดเตรียมหน้ากากอนามัยให้มีความพร้อม และวัคซีนคือเครื่องมือที่สำคัญในขณะนี้
“พล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยปละละเลย จงใจให้เกิดกระบวนการที่ล่าช้าในการแก้ไขสถานการณ์การระบาดของโรค ผู้ป่วยรอเตียงอยู่ที่บ้านจนเสียชีวิตเหมือนใบไม้ร่วง นักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงกลัวตัวเองเสียหน้า มากกว่ากลัวประชาชนเสียชีวิต หยุดทำให้สถานการณ์แย่ลงไปมากกว่านี้ ชีวิตประชาชนทุกคนมีค่าไม่น้อยไปกว่าพวกท่าน” โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุ