“ธนกร”สละเงินเดือน ซื้ออาหารกล่อง แจกปชช.สู้โควิด-19

29 ก.ค. 2564 | 09:31 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ค. 2564 | 16:45 น.

“ธนกร-ดร. แคทลีน"ลงพื้นที่นำเงินเดือน จัดซื้ออาหารกล่องแจกชาวบ้าน-บุคคลากรทาการแพทย์สู้โควิด ลั่นทุกฝ่ายต้องช่วยกันอย่ามัวแต่โทษกันไปมา พร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ย้ำ”บิ๊กตู่”กำชับทุกฝ่ายทำงานเต็มที่

วันที่ 29  ก.ค.2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้สละเงินเดือนจำนวน 3 เดือนเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้น วันนี้ตนและดร. แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยโซล่าร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ได้นำเงินเดือนไปจัดซื้ออาหารกล่องเพื่อไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนและบุคคลากรทาการแพทย์ผ่านทางสถาบันบำราศนราดูร โดยมีจ่าเอกรังสรรค์ ถามูลแสน รองผู้อำนวยการฝ่ายอำนวยการ สถาบันบำราศนราดูร เป็นผู้รับมอบ 
 

“ธนกร”สละเงินเดือน ซื้ออาหารกล่อง แจกปชช.สู้โควิด-19

ทั้งนี้ตนก็ได้ไปจัดซื้อจากผู้ประกอบการการร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  โดยจะทยอยจัดซื้อข้าวกล่องไปแจกให้กับพี่น้องประขาชนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นตนจะชวนเพื่อนๆที่สนิทมาช่วยกันทำโครงการนี้ต่อไปเรื่อยๆอย่างน้อยจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตามตนขอเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันตนมั่นใจว่าเราจะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน
 

นายธนกร กล่าวว่า ในส่วนการแก้ปัญหาโควิด-19นั้นทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิด แม้ว่าอาจจะติดขัดบ้างแต่ท่านนายกก็จะสั่งการแก้ปัญหาในทันที โดยขณะนี้แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มมากขึ้น แต่ตัวเลขผู้หายป่วยก็เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน การบริหารจัดการเข้าระบบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาวัคซีน การฉีดวัคซีน การรักษาผู้ป่วย การเยียวยา ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งกำชับทุกฝ่ายให้ทำงานแบบบูรณาการ สั่งทุกหน่วยงานช่วยกันอย่างเต็มที่ ลดขั้นตอนที่เป็นอุปสรรค เพราะฉนั้นตนมั่นใจว่าอีกไม่นานสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยเฉพาะในส่วนของกทม.ขณะนี้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชาชน เมื่อฉีดครบ 70 เปอร์เซ็นต์ตามเป้าทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามตนไม่อยากเห็นการตำหนิหรือโทษกันไปมา หรือการบิดเบือนสร้างเฟคนิวส์สร้างความสับสนให้กับประชาชน วันนี้ทุกฝ่ายจะต้องมาช่วยกันเพื่อนำประเทศไปสู่ความเป็นปกติสุข