วันนี้(18 ส.ค.64) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยกรณีสมาคมพิทักษ์ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และ น.ส.สมลักษณ์ หุตานุวัตร นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 ว่า
การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) และพนักงานสอบสวนสั่งให้นางสาวสมลักษณ์ พิมพ์ลายนิ้วมือโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 132 และระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 32 การพิมพ์ลายนิ้วมือพ.ศ 2554 เป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 5 ประกอบมาตรา 3 มาตรา 4 และมาตรา 25 ถึงมาตรา 29 รับรอง และขอให้ยกเลิกหรือเพิกถอนระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติดังกล่าว
โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฏเป็นกรณีที่รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญกำหนดกระบวนการร้อง หรือผู้มีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยไว้เป็นการเฉพาะแล้วตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 47 วงเล็บ 2 ซึ่งมาตรา 46 วรรค 3 บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ผู้ร้องจึงไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213
ส่วนกรณีกล่าวอ้างว่าระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยประมวลระเบียบการตํารวจไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 32 การพิมพ์ลายนิ้วมือพ.ศ 2554 ละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของประชาชนและขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติหลายมาตราของรัฐธรรมนูญของให้ยกเลิกหรือเพิกถอนระเบียบดังกล่าวนั้น เห็นว่าระเบียบดังกล่าวไม่ได้มีสถานะเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นโดยฝ่ายนิติบัญญัติตามความหมายของพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ2561 มาตรา 48 วรรคหนึ่ง ผู้ร้องจึงไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 213 ได้