วันนี้(29 ส.ค.64) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในวันที่ 31 ส.ค.- 3 ก.ย.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องรับผิดชอบ ต่อกรณีที่ไม่ดำเนินการกับข้าราชการระดับสูงของกรมอุตุนิยมวิทยา กรณีที่เป็นบุคคลที่มีส่วนทำให้โควิด-19 ระบาดระลอกสาม เพราะปฏิบัติตนเสเพล จิบไวน์ในคลับหรู และทำให้ประชาชนเดือดร้อน แคมป์คนงานก่อสร้างถูกปิดและทำให้แรงงานที่เสี่ยงติดโควิดต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา
อย่างไรก็ดี กรณีดังกล่าว นางอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ระบุว่าคำร้องที่ตนร้องให้ตรวจสอบนั้น มีมูลและเข้าข่ายผิดวินัย จึงตั้งกรรมการสอบสวน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งนี้ตนทราบว่าเหตุที่ไม่ดำเนินการเพราะอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยานั้น มีผู้ใหญ่หนุนหลัง ชื่อ เสธ. อ. ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เกรงใจ
นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า ประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจในส่วนของกระทรวงกลาโหม คือ การปรับเปลี่ยนงบประมาณ ปี 2564 มูลค่า 921 ล้านบาท ของหน่วยงานจากการจัดซื้อ ไปเป็นซ่อม ทั้งนี้ สตง. ระบุว่าไม่คุ้มค่า
อย่างไรก็ดี ทราบว่า กระทรวงการคลังเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ โดยวันที่ 30 สิงหาคม เวลา 08.30 น. ตนจะรีบไปยื่นเรื่องต่อ ครม. และ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ให้พิจารณา แต่หากครม. ยังพิจารณา จะขยายเรื่องเพื่อยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย
นายยุทธพงศ์ ยังตั้งข้อสังเกตต่อกรณีที่ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ดึงเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะต้องการทำเรื่องต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไป ทั้งที่มีประเด็นฟ้องร้อง ดังนั้นตนขอให้บริษัทเอกชนฟ้องร้องกรุงเทพมหานคร กว่า 3 หมื่นล้านบาท
ขอเรียกร้องให้เร่งรัดจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในเดือนพฤศจิกายน 2564 พร้อมกับการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) หากไม่เร่งรัดตนจะนำข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ และโยงถึง พล.อ.อนุพงศ์
“พรรคเพื่อไทยพร้อมและมีข้อมูลเด็ดต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และมีข้อมูลพร้อมล้มรัฐบาลได้ วันที่ 30 สิงหาคม จะมีข้อมูลของกองทัพเรือที่ส่อไม่โปร่งใส ทุจริต เวลา 10.00 น. เป็นประเด็นของเรือยกพลขึ้นบก เพื่อเรียกน้ำจิ้มให้ประชาชนเห็นว่าการอภิปรายครั้งนี้ นายกฯ จะอยู่ไม่ได้” นายยุทธพงศ์ ระบุ