วันนี้(30 ส.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมวุฒิสภา(ส.ว.) ลงมติเห็นชอบกับ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ด้วยมติเอกฉันท์ 200 เสียง หลังจากที่ส.ว.ได้อภิปรายเนื้อหาอย่างกว้างขวาง นานกว่า 6 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะลงมติ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะตัวแทนรัฐบาล ชี้แจงต่อที่ประชุมตอนหนึ่งว่า การอภิปรายของส.ว.ที่กังวลต่อการหารายได้นั้น ขอชี้แจงว่าปี 2565 มีข้อจำกัดการจัดงบประมาณในภาพรวม เนื่องจากมีสิ่งที่คำนึง คือ สภาพเศรษฐกิจที่ต้องคาดการณ์ล่วงหน้า 1 ปี
ยอมรับว่าสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนและการดำเนินธุรกิจ โดยการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ที่มีโครงสร้างรายรับ จากการเก็บ ภาษี รายได้รัฐวิสาหกิจ รายได้ท้องถิ่นและราได้จากส่วนราชการต่างๆ ทั้งนี้หน่วยงานจะพิจารณาติดตามรายได้ให้เป็นงบประมาณของแผ่นดิน
ส่วนที่กังวลต่อการจัดเก็บภาษีนั้น ในวันที่ 1 กันยายน จะมีการจัดเก็บภาษีอีเซอร์วิส จากแพลตฟอร์มต่างประเทศ ตามกฎหมายที่รัฐสภาอนุมัติ และกระทรวงได้ออกกฎกระทรวงบังคับใช้ ทั้งนี้มีแพลตฟอร์มต่างประเทศที่ไม่เคยเก็บภาษี ลงทะเบียนกว่า 50 ราย จากที่กำหนด 100 ราย