ปชป.นำผู้ประกอบการฟิตเนส ยื่นข้อเรียกร้องถึงรัฐสภา หวังรัฐเยียวยาตรงจุด

10 ก.ย. 2564 | 06:21 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.ย. 2564 | 13:32 น.

ปชป. เดินหน้าช่วยผู้ประกอบการฟิตเนสยื่นข้อเรียกร้องถึงรัฐสภา เน้นเสนอแนะสร้างสรรค์ ไม่ฟ้องร้อง หวังรัฐบาลเยียวยาให้ตรงจุด เร่งคืนชีวิตปกติให้ผู้ประกอบการทันที

วันที่ 10 ก.ย.2564 นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส. สมุทรสงคราม ปชป. และนายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ส.ส. สุราษฎร์ธานี ปชป. นำกลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการสถานออกกำลังกายและผู้ฝึกสอนการออกกำลังกายยื่นหนังสือเรียกร้องถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ผ่านนายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา และถึงพรรคประชาธิปัตย์เพื่อช่วยเหลือในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19

 

นายปริญญ์ กล่าวว่า การที่ศบค. สั่งปิดกิจการสถานออกกำลังกายและฟิตเนสตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้ง 3 รอบนั้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการ ลูกจ้างประจำ กลุ่มอาชีพอิสระ รวมถึงคนออกกำลังกายทั้งหมด ซึ่งการคลายล็อกดาวน์ครั้งล่าสุดก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดทำการได้ ทำให้คนจำนวนมากตกงาน และสร้างความเสียหายต่อมูลค่ารวมทางเศรษฐกิจ ถึงแม้ผู้ฝึกสอนออกกำลังกายบางท่านสามารถปรับไปสอนออนไลน์แต่รายได้โดยรวมของกลุ่มอาชีพและธุรกิจฟิตเนสลดลงอย่างมากแต่ค่าใช้จ่ายยังคงอยู่ 

 

 อีกทั้งการส่งเสริมการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะสร้างภูมิคุ้มกันต้านโควิด-19 ความเดือดร้อนดังกล่าวของพี่น้องประชาชนไม่สามารถรอได้อีกต่อไป รัฐบาลควรเร่งพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือกับมาตรการภาครัฐแต่กลับได้รับผลกระทบเชิงลบหนัก และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้พร้อมรับการเปิดประเทศที่จะถึงนี้ ทั้งนี้นายปริญญ์เสนอให้มีการเรียกร้องและเสนอแนวทางคลายล็อกอย่างสร้างสรรค์ และไม่คิดว่าควรจะมีการฟ้องร้องเพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมการพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาและการออกกำลังกายระยะยาว

ด้านนายธันย์ปวัฒน์ เตขภูวดลวิทิต ตัวแทนกล่มุผู้ประกอบการสถานออกกําลังกายและผู้ฝึกสอนการออกกําลังกายกล่าวเพิ่มเติมว่า อยากเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจได้ใคร่ครวญพิจารณาถึงมาตรการต่างๆ ตามข้อเสนอ ดังนี้

ปชป.นำผู้ประกอบการฟิตเนส ยื่นข้อเรียกร้องถึงรัฐสภา หวังรัฐเยียวยาตรงจุด

1. ยกเลิกคำสั่งปิดสถานออกกำลังกายและฟิตเนสแบบเหมารวม โดยให้ปิดเฉพาะสถานประกอบการที่พบผู้ติดเชื้อหรืออยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเป็นระยะ 14 วัน โดยสถานประกอบการที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อต้องทำความสะอาดร้านตามาตรฐานที่กรมอนามัยและกรมควบคุมโรควางไว้ และให้เจ้าหน้าที่ของทางกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาตรวจเช็คก่อนจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ เช่นเดียวกับธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร

2. ขอให้มีคำสั่งให้สถานออกกำลังกายและฟิตเนสได้กลับมาเปิดบริการ และสามารถจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบ ได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 โดยให้คงการปฏิบัติตามมาตรการคำสั่งของศบค. อย่างเคร่งครัด เช่น ควบคุมจำนวนผู้เข้าใช้บริการ มีการตรวจคัดกรองอุณหภูมิพนักงานและมีการใช้ชุดตรวจ ATK มาคัดกรองผู้ใช้บริการทุกคน ผู้ใช้บริการต้องโชว์เอกสารการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มหรือมีผลตรวจเชื้อที่เป็นผลลถึงจะเข้าใช้บริการ ได้พนักงานและผู้ประกอบการจะต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือมีผลการตรวจเป็นลบทั้งหมดก่อนการเปิดให้บริการ จัดให้มีบริการเจลแอลกฮอล์ล้างมือตามจุดต่างๆ เป็นต้น

3. พิจารณาจัดสรรฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดให้กับผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ และ/หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานประกอบการธุรกิจสถานออกกำลังกายและฟิตเนส 

4. พิจารณาให้มีนโนบายที่ชัดเจนเรื่องการเขียวยา การพักชำระหนี้ และ/หรือ การกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำโดยไม่มีหลักทรัพย์คำประกัน เพื่อรักษาสภาพคล่องทางธุรกิจและรักษาการจ้างงานพนักงาน จากการปิดธุรกิจชั่วคราว


5. เปิดช่องทางสื่อสารเพื่อรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนที่เดือดร้อน เพื่อให้ทราบถึงมุมมอง ผลกระทบ ความยากลำบากของผู้มีอาชีพในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ก่อนที่ทางรัฐจะออกคำสั่ง


6. พิจารณานโยบายเรื่องภาษีส่วนบุคคล ในส่วนของการสมัครสมาชิก สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อย่างน้อย 2-3 เท่า


7. พิจารณาการเปิดให้บริการสถานออกกำลังกาย ตามความพร้อมของผู้ประกอบการเป็นรายๆไป โดยต้องไม่ผิดกฎหรือข้อกำหนดในการดำเนินกิจการจากการออกคำสั่งจากทางภาครัฐ