ตร.สรุปม็อบกระทำผิด 199 คดี รวบ 456 ผู้ต้องหา จ่อ 107 หมายเรียก

วันนี้( 10 ก.ย.64) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมกันแถลงเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุม 2 กลุ่ม ในวันนี้ และสรุปการปฏิบัติ ภาพรวมสถานการณ์การชุมนุม โดยกลุ่มแรก

กลุ่มคนรุ่นใหม่นนทบุรี นัดรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 11.30 น. จัดกิจกรรมในลักษณะคาร์ม็อบ เคลื่อนตัวจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปตามถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ข้ามสะพานพระราม 7 และหยุดทำกิจกรรมที่ด้านหน้าศาลอาญา รัชดาฯ ก่อนจะเดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และคาดว่าจะยุติการกิจกรรมที่แห่งนี้

ส่วนอีกกลุ่ม คือ กลุ่มทะลุแก๊ส ได้มีการนัดรวมตัว เวลา 17.00 น. ที่บริเวณสามแยกดินแดง

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอเตือน ในช่วงนี้พื้นที่กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งหากมีการกระทำมั่วสุม สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค จะต้อวถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับการชุมนุม เมื่อวันที่ 9 ก.ย.64 นั้น มีกลุ่มทะลุแก๊สที่ แยกดินแดง ได้กระทำความผิดในหลายข้อกฎหมาย ซึ่งมีการขว้างปาสิ่งของ ระเบิดปิงปอง ระเบิดแสวงเครื่อง ตลอดจนไปร์ทบอม ใส่ตำรวจ สถานที่ราชการ โรงพยาบาล ตลอดจนทรัพย์สินของประชาชน อีกทั้งยังมีการจุดเพลิงเผาไหม้ตามสถานที่ต่างๆ นับสิบจุด

ทำให้ประชาชนในละแวกนั้น ได้รับผลกระทบ กระทั่งเวลา 20.30 น.ตำรวจได้เข้าไปปฏิบัติการผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมออกนอกพื้นที่ โดยทาง บช.น. จะดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทั้งตัวการและผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดทุกรายต่อไป และหากเยาวชนได้กระทำความผิด ผู้ปกครองอาจจะมีความผิดและได้รับโทษตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ อีกด้วย

ทั้งนี้ยังมีกรณีผู้กระทำความผิดเฟคนิวส์ ผ่านทางโลกออนไลน์ โดยใช้ชื่อ Watcharakon Taweesinsoontron ได้มีการโพสข้อความ ให้ประชาชนเข้าใจผิด ในการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ ในทำนอวตำรวจควบคุมฝูงชนขับรถกระบะชนผู้ชุมนุม แล้วลงมากระทืบซ้ำ จนเสียชีวิต นั้น

กรณีนี้ ทาง บช.น. มีการประกาศแจ้งเตือน ประชาสัมพันธ์ สาเหตุที่แท้จริง นั้นมีหนึ่งในผู้ที่กระทำความผิด บริเวณสามแยกดินแดง พยายามหลบหนีตำรวจ แต่เกิดเสียหลักล้มลง จนทำให้ศีรษะกระแทกกับราวสะพาน เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ โรงพยาบาลตำรวจ มีอาการปลอดภัยดี โดยมีผู้ไม่หวังดีบิดเบือนข้อเท็จจริง จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯพ.ศ.2560 ม.14 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยบช.น. ได้ประสานกับบช.สอท. แล้ว รวมถึงกรณีมีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ให้มันจบที่รุนเรา” เป็นผู้แชร์โพสต์ดังกล่าวต่ออีก อาจจะมีความผิดฐาน ส่งต่อหรือเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มีความผิดและต้องได้รับโทษด้วยเช่นกัน

ส่วนสรุปการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือนก.ค.64 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 199 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 701 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 456 คน ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ออกหมายเรียกกลุ่มผู้ชุมนุมอีกจำนวน 107 หมาย เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อถามถึงการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า การชุมนุมยังเป็นแบบเดิมสักระยะ เนื่องจากกลุ่มประชาชนในภาพรวมทั้งประเทศไม่เห็นด้วย กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในจำนวนหลักร้อย ส่วนการสกัดกั้นเส้นทางใช้ชุมนุมวันนี้หรือไม่นั้น ยังไม่มีการสกัดกั้นเส้นทาง นอกจากมีความรุนแรงเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในภาพรวม หรือมีจอดรถกีดขวางหรือปิดการจราจร ตำรวจจะเข้าบังคับใช้กฎหมาย คาดว่าไม่น่าจะใช้เส้นทางอื่น หากไปก่อเหตุบุกรุกสถานที่ราชการ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะต้องมีการรักษาความสงบเรียบร้อยตามหน้าที่

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ  กล่าวว่า กรณีคนขับรถแท็กซีีนำยางรถยนต์ไปส่งบริเวณแยกดินแดงนั้น เบื้องต้นมีการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้แล้ว ใครที่สนับสนุนกระทำความผิดรูปแบบต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีตามกฎหมาย หากใครถูกออกหมายเรียกหรือหมายจับ ต้องถูกดำเนอนคดี ขอให้หลีกเลี่ยงการตกอยู่ในวงจรที่ถูกดำเนินคดีเกี่ยวข้องกับความก่อเหตุความรุนแรง