นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงข้อวิเคราะห์ของตนเองในการประชุม ส.ส.ภาคใต้ ที่จังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า
ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ชนะ ต้องชนะในภาคใต้ก่อน และตนเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีกระแสที่ดีขึ้นตามลำดับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จะเป็นคนหนึ่งที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไปแน่นอน ก็ด้วยเหตุผลหลัก 5 ประการ
1.สถานการณ์การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามีกระแสความสงบ จบที่ลุงตู่ วันนี้ชัดเจนว่าความสงบที่ยั่งยืนต้องเกิดจากบ้านเมืองที่เป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเท่านั้น ซึ่งเป็นอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ชัดเจนตลอดมา
2.ระบบการเลือกบัตรเบอร์เดียวแบบสัดส่วนผสม มีพรรคการเมืองส่งคนมาสมัคร 30-40 คน ต่างรุมด่าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหวังส่วนแบ่งคะแนนไปให้พรรคตนเอง หลังจากวันเลือกตั้ง ต่างสาบสูญไปแล้ว และต่อไปหากใช้ระบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ พรรคเฉพาะกิจคงหายไปเยอะ โอกาสพรรคของเรา คนของเรา เป็นเสรีภาพของประชาชนผู้เลือกมากขึ้น อิทธิพลการซื้อเสียงจะลดลง
3.การร่วมรัฐบาลที่ผ่านมาเป็นการยืนยันหลักการการยึดมั่นประโยชน์ของประเทศ มากกว่าผลประโยชน์ของพรรค หรือตนเอง พรรคจึงต้องทำหน้าที่ประคับประคองให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ และบัดนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงให้เห็นว่า สามารถขับเคลื่อนนโยบายว่าทำได้ไวทำได้จริง เช่น นโยบายด้านเศรษฐกิจ หรือนโยบายทางการเมืองที่มุ่งมั่นจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
4.การประกาศของมวลสมาชิกพรรค และข้อเสนอของประชามติหลายสำนักที่สนับสนุนให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นกระแสที่มีพื้นฐานทางทฤษฏีสนับสนุนชัดเจน อาทิ พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ การเสนอตัวนายกรัฐมนตรีจึงชัดเจน ไม่ต้องไปหาเหมือนพรรคอื่น นายจุรินทร์เป็นนักการเมืองน้ำดีคนหนึ่งของประเทศ มีประสบการณ์ทางการเมือง ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติมามากที่สุด
และ 5. พรรคประชาธิปัตย์อยู่ในช่วงปรับปรุงพัฒนาในทุกด้าน ตามยุทธศาสตร์ 3 ขา ขารัฐมนตรี ขาพรรค และขา ส.ส.ในสภา ที่แสดงบทบาทที่ชัดเจนกว่าทุกพรรคในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะข้อเสนอเสนอทางยุทธศาสตร์ ทั้งเรื่องการประชาสัมพันธ์ โซเชียลมีเดีย และยุทธศาสตร์การสร้างพรรคเสรีนิยม ที่เป็นพรรคการเมืองสากลที่แท้จริงต่อไป
นายชินวรณ์ กล่าวว่า หวังว่าข้อเสนอของตนจะเป็นข้อเสนอที่ได้รับการวิเคราะห์วิจารณ์จากทุกฝ่ายด้วยความจริงใจ และเชื่อมั่นศรัทธาในมวลสมาชิกพรรคและผู้สนับสนุนทั้งหลายว่า ทุกคนเป็นนักประชาธิปไตย แต่เมื่อถึงเวลาวิกฤติ หรือ จะต้องสู้ศึกไปด้วยกัน ทุกคนจะรวมพลังกันด้วยอุดมการณ์ที่มั่นคงเสมอมาและตลอดไป