“กรณ์”สร้างปรากฏการณ์ใหม่ไล่ตอบคอมเมนท์ในโซเชียลมีเดียด้วยตัวเอง

26 ธ.ค. 2564 | 08:33 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ธ.ค. 2564 | 15:43 น.

ไม่ใช่ตัวจริง พูดแทนไม่ได้ “กรณ์ จาติกวณิช” สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ไล่ตอบคอมเมนท์ ในโซเชียลมีเดีย ด้วยตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา มีคนสังเกตว่า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า เป็นหนึ่งในนักการเมืองไม่กี่คน ที่มีความเคลื่อนไหวในทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง IG, Facebook, Twitter, Tiktok ที่มีคนติดตามเป็นจำนวนมาก 

 

ที่น่าสนใจคือ นอกจากบนช่องทางตัวเอง นายกรณ์ ยังมีส่วนร่วมในการพูดคุยแสดงความเห็นในเพจต่างๆ และเข้าไปตอบโพสต์บางคนที่แชร์ไป แล้วไปใส่ความเห็นที่ไม่ถูกต้อง บางคนนำไปเชื่อมโยงกับประเด็นการเมือง

นายกรณ์ จึงได้ไปตอบคอมเมนท์ โดยเป็นการอธิบาย ถึงที่มาที่ไป รวมถึงวัตถุประสงค์ของกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ทั้งประเด็นการเมือง และกิจกรรมของพรรคด้วยความสุภาพตามสไตล์นายกรณ์ แต่บางครั้งอ่านแล้วก็มีอาการแสบๆ คันๆ 

 

เช่น  โครงการ “ข้าวอิ่ม” ที่เขา ได้ลงไปช่วยชาวนา จ.มหาสารคาม โดยสนับสนุนให้ปลูกข้าวออกานิกส์ เกรดพรีเมียม เพื่อให้จำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้นเจาะกลุ่มลูกค้ารักสุขภาพ ซึ่งเป็นโครงการที่ทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 แล้ว สามารถปลดหนี้ให้กับชาวนาได้ตั้งแต่ 2 ปีแรก  และนำมาจัดชุดแพคเกจกับกระเป๋ากระจูด ของ ชาวบ้าน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เหมาะเป็นของขวัญของฝาก และสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้โดยตรง 

  “กรณ์”สร้างปรากฏการณ์ใหม่ไล่ตอบคอมเมนท์ในโซเชียลมีเดียด้วยตัวเอง   “กรณ์”สร้างปรากฏการณ์ใหม่ไล่ตอบคอมเมนท์ในโซเชียลมีเดียด้วยตัวเอง

“แต่มีบางคนมองถึงราคาจำหน่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าข้าวธรรมดาทั่วไป และมองว่าเป็นการค้ากำไรเกินควร ซึ่งนายกรณ์ก็ได้ตอบกลับไปว่า ชาวนาสามารถขายข้าวได้ราคาตัน 23,000 บาท เฉลี่ยสูงกว่าตลาด 3 เท่า เพราะเขาทำเกษตรอินทรีย์ สู่ความเป็นตลาดพรีเมี่ยม ชาวนาไทยไม่จำเป็นต้องขายข้าวราคาถูกเสมอไปเพราะตลาดมีหลาย segment ไม่เช่นนั้น ก็ต้องเอาภาษีอุดหนุนความยากจนตลอดไป เป็นต้น ซึ่งหลังจากที่นายกรณ์ได้ไปตอบคอมเมนท์ ส่วนใหญ่จะไม่ตอบโต้กลับ”

              “กรณ์”สร้างปรากฏการณ์ใหม่ไล่ตอบคอมเมนท์ในโซเชียลมีเดียด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ ยังตอบคอมเมนท์และให้กำลังใจ ว่าที่ผู้สมัคร สส.ในแต่ละพื้นที่ ที่ตั้งใจลงพื้นที่ทำงานต่อเนื่องมาเกือบ 2 ปี ตั้งแต่ยังไม่มีกระแสการเลือกตั้ง หลายคนพยายามโปรโมทของดีในท้องถิ่น  รวมถึงการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุปัญหาความเดือดร้อนต่าง ๆ ทั้งจากน้ำท่วม โรคระบาด รวมถึงเป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชน ที่ไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นธรรมจากรัฐบาล