วันที่ 27 ม.ค.2565 นายรณกาจ ชินสำราญ คณะกรรมการอำนวยการและพัฒนา พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงสถานการณ์เนื้อหมูแพงในขณะนี้ว่า เหลือเวลาอีก 4 วันก็จะถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่พี่น้องคนไทยเชื้อสายจีนทั้งประเทศ จำเป็นต้องซื้อหมูไปไหว้เจ้า รัฐบาลจะสามารถบอกประชาชนได้หรือไม่ว่า เมื่อถึงวันจ่ายคือวันที่ 30 มกราคม ชาวบ้านจะต้องซื้อเนื้อหมูกิโลละกี่บาทกันแน่
ตอนนี้ราคาหมูหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 104 บาท ดังนั้นราคาหมูหน้าเขียงหรือร้านค้าปลีก จึงไม่ควรเกิน 200 บาทใช่หรือไม่ ? แต่เหตุใดราคาตอนนี้กลับพุ่งสูงขึ้นถึง 220 หรือ 240 บาท จนมีการคาดกันว่ากว่าจะถึงวันตรุษจีน ราคานื้อหมูอาจจะทะลุไปถึงกิโลกรัมละ 300 บาทหรือไม่ โดยอ้างเรื่องเนื้อหมูขาดตลาด ทั้งที่เห็นกันทนโท่อยู่ว่ามีเนื้อหมูอีกหลายล้านกิโลถูกเก็บอยู่ในสต๊อกห้องเย็นของกลุ่มนายทุน
“หลังจากถูกด่าเรื่องหมูแพงมหาโหด ตอนแรกมีการให้ข้อมูลว่าหมูขาดตลาดเพราะตายด้วยโรคระบาด แต่เมื่อถูกกดดันให้ตรวจสต๊อกหมูในห้องเย็น กลับพบว่ามีเนื้อหมูแช่แข็งถูกเก็บอยู่กว่า 18 ล้านกิโลกรัม ทั้งที่ยังตรวจห้องเย็นไม่ครบ นี่ถ้าตรวจห้องเย็นจนครบทั้งประเทศ เนื้อหมูแช่แข็งจะมีมากขนาดไหน สื่อบางแห่งบอกว่าอาจสูงถึง 25 ล้านกิโลกรัม ทำไมเนื้อหมูเหล่านี้จึงยังไม่ถูกนำไปขายในท้องตลาด และนี่คือสาเหตุที่ทำให้หมูแพงแบบผิดปกติใช่หรือไม่”
“นับถอยหลังเหลืออีก 4 วัน จะถึงวันไหว้ตรุษจีนแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่สามารถสั่งให้เอาหมูที่ตรวจพบในสต๊อกห้องเย็นออกมาขายก่อนวันตรุษจีนได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่านายทุนต้องการเก็บเอาไว้ขายในช่วงตรุษจีน ซึ่งจะเป็นช่วงที่เนื้อหมูมีราคาสูงที่สุด แต่รัฐบาลทำได้แค่ออกมาขู่ว่าจะนำเข้าหมูจากต่างประเทศหรือขู่ว่าจะจัดการกับผู้กักตุน แต่ยังไม่เห็นการบังคับใช้กฎหมายกับคนกลุ่มนี้เลย ชาวบ้านจึงอดสงสัยไม่ได้ว่า หรือนี่คือการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุนหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ทำไมจึงปล่อยให้เนื้อหมูอยู่ในสต๊อกมากมายมหาศาลอย่างนั้น เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีจะต้องมีคำตอบ”นายรณกาจกล่าว