นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี “สภาล่ม” ซ้ำซาก สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า เกิดจากปัญหาของ “เสียงปริ่มน้ำ” และ กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เหตุการณ์สภาล่มครั้งนี้เป็นครั้งที่ 16 ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์
พรรคพลังประชารัฐที่เป็นพรรคแกนนำหลักของรัฐบาลมีเสียงอยู่ 94 เสียง แยกออกไปเป็นพรรคเศรษฐกิจไทย 21 เสียง ซึ่งไม่เข้าร่วม และไม่ร่วมโหวตในการประชุม 21 เสียงที่หายไปจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สภาล่ม
หากนับจำนวนเสียงรัฐบาล เรือเหล็กของ พล.อ.ประยุทธ์ มีเพิ่มมาอีก 1 เสียง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งที่จังหวัดสงขลา รวมทั้งหมด 245 เสียง ส่วนพรรคฝ่ายค้านรวมทั้งหมด 207 เสียง ปัจจุบันมีเสียงอยู่ในสภาทั้งหมด 437 เสียง แบ่งครึ่งได้ 237 เสียง
และหากนับเสียงเกินครึ่งของรัฐบาลจะมีอยู่เพียงแค่ 5 เสียง แต่ใน 5 เสียงนี้เป็นรัฐมนตรีอยู่หลายท่าน หากมีประชุมก็ติดภารกิจหน้าที่ไม่สามารถมายกมือโหวตให้ได้ เรียกได้ว่าหากนับองค์ประชุมก็ไม่ครบตั้งแต่ต้น รัฐบาลจึงมีเสียงเกินครึ่งเพียงแค่ 5 เสียง และกลุ่มของ รอ.ธรรมนัส ก็ไม่ร่วมสังฆกรรม
นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จึงมีทางเลือกให้ 2 ทางคือ ทางที่ 1 ปรับ ครม.ในช่วงปิดสมัยประชุม (ตั้งแต่ 1 มี.ค.65) และทางเลือกที่ 2 คือ ยุบสภา ก่อน 22 พ.ค.2565 แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ประกาศแล้วว่าจะไม่มีการปรับครม.และไม่นำกลุ่มของ รอ.ธรรมนัส มาร่วมด้วย
“เชื่อว่าสถานการณ์แบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่ยอมให้ตัวเองตายกลางสภา จึงเห็นสัญญาณของการเตรียมยุบสภาในการทิ้งทวนเมกะโปรเจคต์ขนาดใหญ่ 400,000 ล้านบาท" นายยุทธพงศ์ ระบุ