วันนี้(27 ก.พ.65) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยไม่พอใจที่รัฐสภาตีตกกฎหมายพรรคการเมืองของพรรค มาตราที่ห้ามคนนอกเข้าครอบงำพรรค พร้อมขู่หากสภาล่มอีกอย่ามาโทษกัน ว่า พรรคเพื่อไทยต้องหัดยอมรับเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯด้วย ทั้งนี้สมาชิกรัฐสภามีเหตุผล และพิจารณาแล้วว่าร่างกฎหมายใดสมควรปรับแก้หรือไม่ปรับแก้ เรื่องใดเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
ดังนั้นสมาชิกพรรคเพื่อไทยไม่ควรออกมาโวยวาย รวมถึงข่มขู่ว่าหากสภาฯล่มอย่าโทษพรรคเพื่อไทย เพราะไม่เกี่ยวข้องกัน การเข้าร่วมประชุมสภาฯ ถือเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ทุกคนที่ต้องทำงานเพื่อประชาชนที่เลือกเข้ามา อย่าเอาเงินเดือนที่มาจากภาษีของประชาชนมาใช้ทำเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว พรรคตัวเองรวมถึงนายใหญ่ที่อยู่ต่างประเทศมันน่าละอาย
พรรคเพื่อไทยควรเคารพเสียงส่วนใหญ่ ไม่ใช่ขี้แพ้ชวนตี พอร่างกฎหมายของตัวเองไม่ผ่านกลับจะมาเล่นเกมการเมืองจะทำให้สภาฯล่ม ทั้งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยก็ไม่เคยทำหน้าที่ในสภาฯอย่างเต็มที่อยู่แล้ว อย่ามาอาศัยจังหวะนี้ขู่คนอื่น
และตนเองมองว่าร่างกฎหมายที่พรรคเพื่อไทยเสนอสิดไส้ ปรับแก้ มาตรา28 และ 29 ต่อให้มีเหตุผลเป็นร้อย ก็ไม่เชื่อว่าไม่ได้ทำเพื่อนายใหญ่ที่อยู่แดนไกล
พรรคเพื่อไทย อย่ามาอ้างเลยว่าเป็นการป้องกันการถูกยุบพรรค เพราะยังไงก็มีโอกาสถูกยุบพรรคสูง กับสิ่งที่ปล่อยให้นายใหญ่โทนี่ ออกมาครอบงำพรรคตลอดมา และมีคนไปร้องยุบพรรคไว้เรียบร้อยแล้ว
การที่จะสอดไส้แก้กฎหมายเรื่องนี้ประชาชนไม่ได้โง่ พอสอดไส้ไม่สำเร็จ มีการออกมาขู่จะทำให้สภาล่ม น่าหัวเราะให้ฟันร่วง อยากทำให้สภาล่มก็ทำไป คนที่จะเสียหายมากที่สุดคือ พรรคเพื่อไทยเอง ที่ไม่ยึดหลักกติกา อย่ามาทำขู่
เพราะการขู่จะทำให้สภาล่ม คือการแสดงพฤติกรรมธาตุแท้ของคนที่อยู่ในคอก ที่มีเจ้าของสุนัขคอยกำกับสั่งการตามที่เจ้าของคอกสุนัขต้องการ เช่นนั้นใช่ไหม ให้ระวังประชาชนจะพิพากษาลงโทษ จนพรรคเพื่อไทยจะไม่มีที่ยืนเหลือในสภาอีกต่อไป