วันที่ 28 ก.พ. 2565 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายประหัส สมบูรณ์ผล ชาวหนองแขม กทม.กรณีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หยุดการเดินรถสาย 7 ช่วงคลองขวาง-หัวลำโพง ซึ่งเป็นรถเมล์ร้อน เก็บค่าโดยสาร 8 บาทตลอดสาย วิ่งจากคลองขวางเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ ผ่านตลาดคลองขวางเข้าถนนเพชรเกษม ไปเดอะมอลล์บางแค ผ่านตลาดบางแค ท่าพระ วงเวียนใหญ่ พาหุรัด เยาวราช วงเวียน 22 สถานีรถไฟหัวลำโพงโดยกรมการขนส่งทางบก(ขบ.)และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมที่มี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นายวัชระ กล่าวว่า รถเมล์ร้อนจะหยุดวิ่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย เท่ากับบีบบังคับให้ประชาชนไปขึ้นรถแอร์ ไม่ให้โอกาสทางเลือกแก่ประชาชน วันนี้ตนจะรีบยื่นหนังสือร้องเรียนถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อขอให้รถเมล์ธรรมดาสาย 7 ยังคงมีบริการประชาชนผู้มีรายได้น้อยต่อไป ส่วนรถแอร์อนุมัติแล้วก็ให้วิ่งต่อไป โดยให้ประชาชนมีสิทธิ์เลือกที่จะใช้บริการรถแบบใด
“ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ รัฐบาลควรช่วยประคับประคองไม่เพิ่มรายจ่ายให้กับประชาชน ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนกันมากไม่เฉพาะชาวหนองแขม คนตัวเล็กตัวน้อยไม่มีปากเสียง เขาบ่นน้อยใจนายกฯลุงตู่ว่าทอดทิ้งคนยากคนจน หาเช้ากินค่ำจะบังคับให้นั่งรถแอร์ค่าตั๋วแพงๆ จึงอาสามาเป็นปากเสียงให้ชาวรถเมล์ทุกคน หวังว่ารัฐบาลคงพิจารณาให้คงรถเมล์ธรรมดา(รถร้อน)สาย 7 ไว้ต่อไป เพราะรถเมล์สายนี้วิ่งมาตั้งแต่พ.ศ.2519 ถึงปัจจุบันเป็นเวลา46 ปี บริการทุกวันตั้งแต่ 03.00 น.ถึง 22.00 น.ค่าตั๋ว 8 บาทตลอดสาย ส่วนกลางคืนเก็บค่าตั๋วเพียง 9.50 บาทเท่านั้น การนั่งรถธรรมดา เว้นระยะห่างไม่ติดโรคโควิด-19 ส่วนรถแอร์จะทำให้โรคโควิด-19 ระบาดได้ง่าย” นายวัชระ กล่าว
สำหรับรถเมล์สาย 7 เป็นเส้นเลือดการคมนาคมของชาวหนองแขมในการไปซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่ตลาดบางแค ประชาชนลงรถไฟที่สถานีหัวลำโพงก็ต่อรถมาหนองแขมด้วยราคาเพียง 8 บาท ไปตลาดสดซื้อของสดของคาวก็ขึ้นรถเมล์ร้อนได้ นักเรียนนักศึกษาคนมีรายได้น้อยก็เดือดร้อนเพราะรถแอร์ของเอกชนที่มาวิ่งแทนมีราคาแพงกว่ามากตั้งแต่15-25 บาท ซึ่งแพงมากกว่าเดิมถึง 300 เปอร์เซ็นต์