“เอ้ สุชัชวีร์”ประกาศความพร้อม ลั่น!ผู้ว่าฯกทม.ต้องมากับทีม ส.ก.

24 มี.ค. 2565 | 06:14 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มี.ค. 2565 | 13:41 น.

“ดร.เอ้ สุชัชวีร์”ย้ำผู้ว่าฯกทม. ต้องมาพร้อมกับทีม ส.ก. ที่มีอุดมการณ์ มีหลักการ มีวิสัยทัศน์ หลอมรวมหัวใจ 50 + 1 ประกาศ “เปลี่ยนกรุงเทพ เราทำได้”

24 มี.ค. 2565 ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ร่วมงานเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมี ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร  (ส.ก.)ทั้ง 50 เขต . โดยมีประชาชนมาร่วมเป็นสักขีพยาน และให้กำลังใจที่พรรคเป็นจำนวนมาก 

 

ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า วันนี้ทุกคนมีสายตามุ่งมั่น ที่อยากเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้น และการใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีฟ้าสะอาด ทำให้คิดว่า ในอนาคตเราจะมีท้องฟ้าที่แจ่มใสเราจะมีน้ำที่สะอาดสักที สีฟ้าคือสีมงคล ท้องฟ้า น้ำคือชีวิต พรรคประชาธิปัตย์เรา 76 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านวิกฤติมานับครั้งไม่ถ้วน ครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่จะพิสูจน์ว่าไม่ว่าเราจะเจอหนักแค่ไหน อุปสรรคจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ครั้งนี้คือเวลาที่เราจะพิสูจน์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ สีฟ้าแห่งความยิ่งใหญ่และใสสะอาด จะมาเปลี่ยนกรุงเทพฯ เพื่อพี่น้องประชาชนทุกคนแน่นอน 

ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
 

ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า  กล่าวว่า "ผมถือเป็นผู้สมัครที่โชคดีที่สุด ผมโชคดีที่สุดที่ผมมีครอบครัวอย่างนี้ เรามีบ้านหลังนี้ มีผู้ใหญ่ มีครอบครัวที่ดีที่สุด มีใครบ้าง ผู้ว่าฯ ที่มาพร้อมทีมที่เข้มแข็งที่สุด ที่มุ่งมั่นที่สุด ที่เสียสละที่สุด วันนี้เป็นวันประกาศความพร้อมว่า ไม่ใช่จะมีเฉพาะผู้ว่าฯกทม.เท่านั้น แต่นี่คือหัวใจ 50 ดวง บอกกับ 1 เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้” 

 

พร้อมกับเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่บางบอน บางขุนเทียน วิ่งไปจนจรด มีนบุรี หนองจอก ตนได้เดินมาหมดแล้ว และยิ่งเดิน ก็ยิ่งรู้ว่าทำไม ผู้ว่าฯ ต้องมี ส.ก. ที่เข้มแข็ง และทำไมผู้ว่าฯ ต้องสังกัดพรรคการเมือง เพราะแต่ละพื้นที่นั้นมีปัญหาหนักหนาสาหัสแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งผู้สมัคร ส.ก. แต่ละท่านคือคนในพื้นที่ คือคนที่มีความรู้ลึกซึ้ง และมีความมุ่งมั่น ที่สำคัญคือเข้าถึงพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ได้ 

 

“ผมจึงมีความมั่นใจว่าครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ของเรา มีความพร้อมที่สุด และเป็นความพร้อมที่ไม่ใช่เฉพาะบุคคลเท่านั้น แต่เป็นหัวใจ 50 + 1 ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน และเป็นความพร้อมที่เราจะไม่กลัว เป็นความพร้อมที่เราจะออกไปบอกกับพี่น้องประชาชนทุกคนทุกบ้าน ว่าวันนี้เรามีเจตนา มีความมุ่งมั่นอันบริสุทธิ์ที่อยากจะเปลี่ยนกรุงเทพฯ เพื่อลูกหลานเราให้ดีขึ้น

“เอ้ สุชัชวีร์”ประกาศความพร้อมชิงผู้ว่าฯ กทม.

จากนี้ไปอีก 2 เดือน ผมเดินมาแล้ว 50 เขต เดินวันละไม่ต่ำกว่า 15,000 ก้าว อีก 2 เดือน ผมจะบอกกับพี่ๆ ทุกคนว่า พี่จะมีผมอยู่ทุกที่ ผมจะเป็นพี่น้องของพี่ จะเป็นตัวแทนของพี่ที่ขยันที่สุด ที่ต่อสู้ที่สุด และจะมุ่งมั่นที่สุดครับ”  

ดร.สุชัชวีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ได้เดินมาเกิน 1 ล้านก้าว และจะเดินอีกกี่ล้านก้าว “ก็บ่ยั่น” วันนี้ทุกก้าวจะไปบอกกับพี่น้องประชาชน ให้มั่นใจในพรรคประชาธิปัตย์ ที่หลักการและอุดมการณ์ไม่เคยเปลี่ยน พรรคของเรามีความชัดเจน ผู้ว่าฯกทม. มาพร้อมกับ ส.ก. 50 เขต วิสัยทัศน์ เปลี่ยนกรุงเทพฯ เพื่อให้เป็นเมืองสวัสดิการที่ทันสมัย ต้นแบบของอาเซียน และวันนี้ กทม. ในรูปแบบการปกครองในท้องถิ่น ผู้ว่าฯ มาเดี่ยวๆ ไม่ได้ แต่ผู้ว่าฯ ต้องมาพร้อมกับทีม ส.ก. ที่มีอุดมการณ์ มีหลักการ มีวิสัยทัศน์เริ่มต้นเดียวกัน ซึ่งพรรคของเราอยู่วันนี้ อยู่ที่นี่ อยู่ที่กรุงเทพฯ เราจะเป็นพรรคที่บอกกับพี่น้องประชาชนว่า วันนี้เปลี่ยนกรุงเทพ เราทำได้” ศ.ดร.สุชัชวีร์กล่าว 

 

พร้อมกับได้ให้ผู้สมัคร ส.ก. ทั้ง 50 เขต ร่วมกันส่งพลังด้วยการตะเบ็ง “เปลี่ยนกรุงเทพ เราทำได้” อย่างสุดเสียง ถือเป็นการรวมเสียง ส.ก. ทั้ง 50 เขต และ 1 ผู้ว่าฯกทม.รวมหัวใจ 50+1 ดังกึกก้องบริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม สร้างความฮึกเหิมปลุกพลังให้ชาวประชาธิปัตย์เป็นอย่างดี 

แกนนำ ปชป.เปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และส.ก. ที่ปชป.

การเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากมีแกนนำสำคัญของพรรค และรองผู้อำนวยการศูนย์ทั้ง 9 คนซึ่งได้เปิดตัวไปวานนี้ ยังมีคนรุ่นใหม่ Dem Volunteers 10 คน ที่พร้อมอาสาช่วยงานเลือกตั้ง กทม. และ ส.ก.อีกด้วย ประกอบด้วย นายชยพงศ์ สายฟ้า, นายอิศเรศ เอี่ยมเจริญยิ่ง, นายศรุต วัฒนสมบูรณ์, นายสุกฤษฏิ์ชัย ธีระเริงฤทธิ์

 

 นายโอตป สมิตะพินทุ, นางสาวธัญชนก นานา, นายกฤษฏิ์ เพียรมุ่งสัมพันธ์, ดร.ปิ่นปินัทธ์ สุดทำนอง, นายปิฎก อยู่มั่นธรรมา, ผศ.ดร.ฐิตารีย์  ไตรสรณปัญญา, นายสราวุธ ทับทอง และ นายชานน สัมพันธารักษ์