พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่า มั่นใจและมีความพร้อมในการลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. โดยยอมรับว่า ที่ผ่านมาอาจจะพูดไม่เก่ง แต่ก็ทำหลาย ๆ อย่างให้กับคนกทม.เห็นหมดแล้ว
“ถามความมั่นใจตอนนี้ ก็เหมือนกับนักมวยเวลาจะขึ้นชกก็ต้องมั่นใจว่าจะสู้กับคนอื่นได้ ถือเป็นหลักการสำคัญ เพราะถ้าคิดจะแพ้ ยังไม่ทันขึ้นเวทีก็แพ้แล้ว จึงคิดว่าจะสามารถสู้กับผู้สมัครคนอื่น ๆ ได้ แต่ผลการชกก็ขึ้นอยู่กับกรรมการ คือประชาชน คนกทม. และหากมาถามว่าสู้ได้ไหม ยืนยันจริง ๆ ว่าสู้ได้นี่คือเป้าหมาย”
สำหรับเหตุผลสำคัญที่ตัดสินใจลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ ยืนยันว่า ต้องการสานงานต่าง ๆ ที่เคยทำค้างไว้ให้เดินหน้าต่อให้เสร็จ โดยในวันที่ 28 มี.ค. นี้ จะเปิดนโยบายอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งทีมงานที่จะเข้ามาช่วยกันทำงานในครั้งนี้ด้วย
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า เมื่อได้ตัดสินใจลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม.แล้วก็ต้องทำเต็มที่ แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับประชาชนจะเป็นคนตัดสิน โดยปัจจุบันคนกทม. ที่เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีอยู่ทั้งหมด 4.5 ล้านคน โดยคาดว่าจะมีผู้มาเลือกตั้งประมาณ 65% หรือประมาณ 2.8 – 2.9 ล้านคน
อย่างไรก็ตามตอนนี้เห็นว่า ในขณะนี้มีชุมชนที่จดทะเบียนในกทม. ทั้งสิ้น 2,016 แห่ง มีคนอยู่ประมาณ 2 ล้านคน ในกลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้ง 1.8 ล้านคน ที่เหลืออีกประมาณ 2.4 ล้านคน เป็นคนที่อยู่ในชุมชนที่ไม่ได้จดทะเบียน เช่น คอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ บ้านเดียว และตึกแถว ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะต้องเจาะเข้าไปถึงคนกลุ่มนี้ให้ได้มากขึ้น
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2566 พล.ต.อ.อัศวิน ได้แถลงลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ตั้งแต่เข้ามาเป็นผู้ว่าฯกทม.จนถึงวันนี้เป็นเวลา 5 ปี 5 เดือน กับอีก 5 วัน โดยสิ่งที่ได้ทำมาแล้วคงจะมีการสานต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ขณะนี้กรุงเทพฯ เปลี่ยนไปเยอะแล้ว ที่ผ่านมา 10-20 ปี นโยบายสวยหรูไม่เคยนำไปสู่ปฏิบัติ ก็นำนโยบายสู่การปฏิบัติใน 5 ปีนี้