วันนี้ (5 เม.ย.65) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) จัดโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) โดยเชิญผู้สมัครมาร่วมประชุมเพื่อรับฟังและทำความเข้าใจและชี้แจงข้อกฎหมาย ระเบียบข้อควรปฏิบัติต่างๆ เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง การป้องกันการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
และร่วมประกาศเจตจำนงสุจริตในการเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครยอมรับเรื่องรู้แพ้รู้ชนะรู้ภัย รู้รักสามัคคี เพื่อให้การหาเสียงเป็นไปอย่างสุจริตโปร่งใส ไม่ใส่ร้ายป้ายสีกันและกัน และลดการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัคร ส.ก. สนใจเข้าร่วมจำนวนมาก เช่น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 6 นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 7 นายโฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 24 และ นายวรัญชัย โชคชนะ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 22 นายศราวุธ เบญจกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 28
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวเปิดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ว่า การเลือกตั้ง ส.ก. และผู้ว่าฯ กทม.ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งผู้ที่จะมาบริหารและติดตามตรวจสอบการบริหาร กทม. ซึ่งเป็นมหานคร องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ที่จะต้องมีการบริหารจัดการอย่างเหมาะสมในพื้นที่ที่มีปัจจัยทางสังคมที่แตกต่างและหลากหลาย
ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลาย ทั้งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้ดำเนินการหรือจัดการควบคุมการเลือกตั้ง ผู้สนับสนุนการเลือกตั้ง และประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต่างมีพันธะร่วมกัน ที่จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย
ถือเป็นโอกาสดีที่ผู้สมัครทุกคนจะได้แสดงความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะปฏิบัติให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยการสุจริตโปร่งใสเที่ยงธรรม เต็มใจและสมัครใจในการประกาศเจตจำนงสุจริตในการเลือกตั้งร่วมกัน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ถือเป็นการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองที่ดีงามให้สังคมปละประชาชนได้รับรู้รับทราบ
ประธาน กกต. กล่าวว่า สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่จะทำให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างสมานฉันท์ สุจริต และเที่ยงธรรมอย่างแท้จริง คือบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องรู้จักหน้าที่ และปฏิบัติให้เป็นไปตามหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด
ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 50 ได้บัญญัติหน้าที่ของบุคคลไว้ โดยอนุมาตรา 3 บัญญัติว่า บุคคลมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งในบริบทนี้คือกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น อนุมาตรา 6 บัญญัติว่าเคารพและไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น และไม่กระทำการใดที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกหรือเกลียดชังในสังคม
อนุมาตรา 7 บัญญัติว่า ไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นสำคัญ และอนุมาตรา 10 บัญญัติว่า ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตในทุกรูปแบบ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ถือเป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทยในรัฐธรรมนูญ หากทุกคนได้ปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวแล้วเชื่อมั่นว่าจะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้กฎหมายเลือกตั้งฉบับปัจจุบันมีสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากกฎหมายฉบับก่อนๆ ทั้งคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง วิธีการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งปัจจุบัน กกต.ได้จัดทำแอพพลิเคชั่น “Smart Vote” หรือ “ฉลาดเลือก” ซึ่งมีข้อมูลที่สำคัญทั้งกฎหมายท้องถิ่น คำถาม-ตอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งและพรรคการเมือง การตรวจสอบสิทธิต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
รวมทั้งช่องทางการแจ้งเบาะแสการทุจริตเลือกตั้งผ่านแอพพลิเคชั่น “ตาสับปะรด” แต่เมื่อถึงเวลาที่การหาเสียงเพิ่มความเข้มข้นขึ้น แนะนำให้โทรสายด่วน 1444 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่กกต.ให้คำปรึกษาทันที เพื่ออำนวยความสะดวกให้การหาเสียงเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสมานฉันท์
หลังจากนั้น นายอิทธิพร พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงาน กกต. ได้เป็นสักขีพยานในการประกาศเจตจำนงสุจริตในการเลือกตั้งร่วมกันของผู้สมัคร ส.ก. และผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. โดยมีรายละเอียดว่า
ข้าพเจ้าจะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ข้าพเจ้าจะถือปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้ง และระเบียบที่เที่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ข้าพเจ้าจะแข่งขันเลือกตั้งตามกติกา รู้แพ้ รู้ขนะ รู้อภัย และรู้รักสามัคคี ข้าพเจ้าจะดำรงรักษาความเป็นมิตร เป็นเพื่อนบ้าน ความเป็นญาติ เป็นพี่เป็นน้องในท้องถิ่น ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง
ข้าพเจ้าจะไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตเลือกตั้ง และการซื้อสิทธิขายเสียงทุกรูปแบบ และขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะแข่งขันเลือกตั้งในครั้งนี้ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ดีของประเทศ รวมทั้งจะเป็นองคาพยพที่สำคัญในการพัฒนาการปกครองระบอนประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้มั่นคง ยั่งยืน สืบต่อไป