“อัศวิน"พอใจผลโพลล์ผู้ว่าฯกทม.ชี้ไปในทิศทางที่ดี พร้อมปรับป้ายหาเสียง

วันนี้ (5 เม.ย.65) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข  6 ในนามอิสระ  เปิดเผยถึงการลงพื้นที่หาเสียงว่า ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่ประชาชนจะเลือกหรือไม่คงตอบแทนไม่ได้   หลังจากนี้ไม่ได้มีการปรับแผน หรือกลยุทธ์หาเสียง เพราะตนก็ทำตามธรรมชาติของตนและเป็นตัวของตัวเอง จะให้พูดกี่ครั้งก็เหมือนกันทุกครั้ง

ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. มากถึง 31 คน ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี และใช้ระบบประชาธิปไตยในการแข่งขัน ให้ประชาชนมีตัวเลือกเยอะ  ดังนั้น รักใครชอบใครชอบนโยบายคนไหนคนไหนก็เลือกคนนั้น 

ส่วนผลการสำรวจความเห็นประชาชนของหน่วยงานต่างๆ มองว่าผลสำรวจเป็นไปในทิศทางที่ดี ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าพอใจ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน  

เมื่อถามว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก จะมีนโยบายซื้อใจอย่างไร พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า  ตนคงต้องแจ้งให้ทราบว่าที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้าง คิดว่าคนรุ่นใหม่มีเหตุ มีผลในการตัดสินใจ ถ้าคิดว่าดีก็เลือก หรือถ้าไม่ดีก็ไม่ต้องเลือก เพราะตนมองว่าประชาชนไม่ได้มองที่หนุ่มสาว แต่มองที่ผลงานมากกว่า 

สำหรับกระแสดราม่าเรื่องป้ายหาเสียง ที่อาจจะมีการกีดขวางทางเท้านั้น  ยอมรับว่า ได้ให้ทีมงานไปติดตั้ง แต่เมื่อป้ายไปกีดขวาง ก็บอกให้เก็บออกไป หรือย้ายที่ติดตั้ง และมีการปรับรูปแบบป้ายให้เล็กลง อย่างเช่น ป้ายของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่บอกว่าป้ายใหญ่เกะกะ เป็นเหตุผลที่ถูกต้อง ซึ่งตนเห็นด้วยกับนายชัชชาติ ก็ต้องปรับให้เล็กลงเพื่อให้ประชาชนไม่ได้รับความเดือดร้อน 

ด้าน นายสกลธี  ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงว่า ลงหลากหลายพื้นที่ จากนี้จะทำคอนเทนท์เพื่อลงสื่อออนไลน์ และโทรทัศน์  เนื่องจากการลงพื้นที่ซึ่งมีหลายพื้นที่เป็นไปด้วยความยาก  และในวันนี้ก็จะได้ลงพื้นที่เพื่อเปิดตัวทีมงาน เพื่อทำงานตามนโยบายที่ได้แถลงไว้แล้ว 

ส่วนป้ายที่ถูกทำลาย มีคนส่งมาให้ดูจำนวนมาก แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบ ทั้งนี้ต้องขออภัยหากป้ายหาเสียงเกะกะ หรือ กีดขวางการจราจร  เบื้องต้นได้สั่งให้ทีมงานแก้ไขแล้ว ทั้งนี้บางคนส่งรูปมาแต่ไม่ได้ระบุสถานที่จึงทำให้แก้ไขลำบาก  และป้ายที่ถูกทำลายก็ไม่ได้ไปแจ้งความ เพราะมองว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย  

นายสกลธี มองว่า เป็นเรื่องที่ดีที่การสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ถึง 31 คน ถือเป็นทางเลือกที่จะทำให้คนกรุงเทพฯ ได้ประโยชน์ ที่คนกรุงเทพฯ จะได้เลือกผู้ที่มีความสามารถหลากหลาย