จากกรณีที่ ปปช.ตรวจสอบการถือครองที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ที่ถูกศาลฎีกามีคำพิพากษาให้พ้นจากการเป็น ส.ส.ตัดสิทธิการลงสมัครตลอดชีวิต และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี นั้น นายศักดินัย นุ่มหนู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จ.ตราด พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า เมื่อมีข่าวประเด็นเรื่องที่ดินของคุณปารีณา ไกรคุปต์ทีไร
ก็จะมักจะมีชื่อของตนเอง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ท่านอื่น ๆ ปรากฎตามสื่อ ที่จะถูกตรวจสอบแทบทุกครั้ง จึงอยากจะชี้แจงเพื่อให้เกิดความชัดเจน และรับทราบเจตนารมย์ของตนเองในการครอบครองด้วย
นายศักดินัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาสมัยที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ถือครองที่ดินส.ป.ก.4-01 ก.จำนวนเนื้อที่ประมาณ 22 ไร่ 47 ตารางวา โดยที่ดินตั้งอยู่ที่ หมู่ที่2 ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการจัดสรรที่ดินส.ป.ก.ทั้งระดับอำเภอ และระดับจังหวัด
ออกให้เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2541 (เป็นเวลา 24 ปีมาแล้ว) มีราษฎรในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงจำนวนมากที่ได้รับเอกสารส.ป.ก.ที่ทางราชการมอบให้พร้อมกันกับตนเอง โดยในขณะนั้น ทำอาชีพเกษตรกรรม และไม่ได้ถือครองที่ดินใด ๆ อีก จึงทำให้มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะได้รับสิทธิในส.ป.ก.4-01 ดังกล่าว
“ในที่ดินแปลงดังกล่าว ผมได้ใช้ทำประโยชน์ด้านการเกษตรตลอดมาจากวันนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ กระทั่งเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ผมได้ยื่นเรื่องขอสละสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าว ต่อเจ้าพนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดตราดเพื่อมอบสิทธิ์ให้กับนายพรรณเศรษฐ์ นุ่มหนู ซึ่งเป็นบุตรชาย
และเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 ทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดตราด ได้มีหนังสือที่ ตร ๐๐๑๑/๒๕๕๔ ตอบกลับมาว่าได้อนุญาตให้บุตรชายกระผม ได้รับการจัดที่ดินแทนแล้ว และทางส.ป.ก.ตราดจะดำเนินการเปลื่ยนแปลงทางสารบัญทะเบียนที่ดิน และจะแจ้งนัดหมายให้ไปรับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฎิรูปที่ดินต่อ ไปซึ่งตอนนี้ได้รับแจ้งให้ไปรับหนังสืออนุญาตแล้ว"
ส.ส.ตราด กล่าวอีกว่า ขอเรียนว่าตนเองเป็นเพียงเกษตรกรธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ไม่ได้มีอิทธิพล บารมีใด ๆ ที่จะไปบุกรุก หรือครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบ หากวันใดที่ตนเองหมดหน้าที่ของการเป็นผู้แทนราษฎรแล้ว ก็จะกลับมาอยู่กับไร่กับสวน ทำกินเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัวเหมือนเดิม เพราะตนเองก็คือคนธรรมดา ที่ได้เป็นผู้แทนราษฎร เท่านั้น