ผับ-บาร์ จี้นายกฯเปิดสถานบันเทิงนำร่อง 28 จ. รับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น

09 พ.ค. 2565 | 03:48 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ค. 2565 | 11:23 น.

เครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ร้องเปิดสถานบันเทิงนำร่อง 28 จังหวัด รับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น

เครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ร้านค้า ร้านอาหาร สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ โดยนายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เป็นตัวแทนเข้ายื่นหนังสือ ข้อเสนอเพื่อการฟื้นฟูและบูรณาการการพัฒนาการท่องเที่ยวครบวงจร ปลอดภัย และยั่งยืน ส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของการท่องเที่ยวไทยในระดับภูมิภาคต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา

 

ทั้งนี้นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับเรื่อง
 

เครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจสถานบันเทิง ร้องเปิดสถานบันเทิงพื้นที่นำร่อง 28 จังหวัด

ช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 ภาคธุรกิจดังกล่าวสร้างรายได้รวมให้กับประเทศเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และมีการจ้างงานรวมเกินกว่าล้านตำแหน่งงานทั่วประเทศ

 

แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ต่อเนื่องยาวนานกว่า 25 เดือน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งโรงแรมที่พัก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าและสถานประกอบการในแหล่งท่องเที่ยว สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ

 

จากการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของรัฐอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการปิดกิจการ จำกัดการเดินทาง จำกัดเวลาและรูปแบบกิจการกิจกรรม และจำกัดจำนวนคน  ส่งผลให้ผู้ประกอบการจำนวนมากต้องปิดกิจการอย่างถาวร เนื่องจากขาดรายได้และขาดสภาพคล่อง สร้างความเดือนร้อนแก่แรงงานและครอบครัวเนื่องจากสูญเสียรายได้และขาดสวัสดิการ

 

รัฐบาลมีเป้าหมายประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2565 และได้ดำเนินการปรับปรุงมาตรการและข้อจำกัดการเดินทางเข้าราชอาณาจักร การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์เหลือเพียงพื้นที่เฝ้าระวังสูงและพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว และการขยายเวลาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารจนถึง 24.00 น. ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา

 

ถือเป็นการดำเนินการสำคัญที่จะประกาศความพร้อมของประเทศในการเปิดรับนักท่องเที่ยว ช่วยเพิ่มความมั่นใจและจูงใจให้มายังประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการบริโภคและการเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคภายในประเทศ เพิ่มความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจและต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีภาคการท่องเที่ยว ร้านอาหารและเครื่องดื่ม การบันเทิงหย่อนใจ และการบริการเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน 
 

นายสง่า กล่าวว่า การยื่นหนังสือต่อนายกฯ และรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา มีประเด็นสำคัญคือการขอให้ยืนยันการประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2565 พร้อมเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ โดยพิจารณาการบูรณาการการใช้กฎหมาย ปกติ อย่างมีประสิทธิภาพยกเลิกมาตรการลงทะเบียนใน Thailand Pass

 

สำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยในทุกช่องทาง รวมถึงประชาสัมพันธ์เป็นการล่วงหน้าก่อนการเปิดประเทศเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและจูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและกลุ่มไมซ์ (MICE: Meeting, Incentive, Conventions and Exhibitions) กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง

 

 รวมถึงอนุญาตให้เปิดกิจการสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ได้รับรองมาตรฐาน SHA Plus หรือ Thai Stop COVID 2 Plus และผ่านการตรวจประเมินโดยคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยระยะทดลอง ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2565 เฉพาะในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 28 จังหวัด

 

โดยแบ่งเป็นเปิดให้บริการได้ทั่วทุกพื้นที่  16 จังหวัด และเปิดในบางพื้นที่ 12 จังหวัด รวมทั้งเปิดดำเนินการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2565 เป็นต้นไป 

 

“ที่ผ่านมาความเสียหายของธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ร้านอาหาร และสถานบันเทิงมีมูลค่านับแสนล้านบาท หากรัฐบาลเปิดประเทศ ผู้ประกอบการต้องใช้เวลาและเงินทุนในการฟื้นฟูธุรกิจหลังจากถูกปิดไปเป็นระยะเวลานาน เสมือนการเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ ทั้งการเรียกพนักงานกลับมาทำงาน การปรับปรุงสถานที่

 

และจะต้องเตรียมความพร้อมก่อนจะเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวในช่วงซัมเมอร์เบรกของต่างชาติและช่วงปลายปี เชื่อว่าหากภาครัฐเห็นด้วยกับข้อเสนอที่นำเสนอในวันนี้ จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศให้กลับคืนมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง จึงอยากให้รัฐบาลเห็นใจผู้ประกอบการกลุ่มนี้ด้วย” 


 
ทั้งนี้ ตัวแทนเครือข่ายที่ร่วมยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ได้แก่ นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร นายธรรมศักดิ์ ฤทธิ์เกรียงไกร นายกสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา นายเสน่ห์ สมศรี นายกสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร นางลัดดา สำเภาทอง นายกสมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหาร

 

นายธรณินทร์ เกียรติชัย ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะนายทศพล เชาว์พานิช นายกสมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหารกลางคืน นายชลเทพ เจริญสุวรรณ นายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และนายพงษ์พันธุ์ สืบแสงไทย นายกสมาคมบาร์เทนเดอร์ไทย