นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ดูแลพื้นภาคใต้ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อยู่ที่ เทศบาลเมืองพัทลุง” ในหัวข้อ “ผัวเมียทะเลาะกัน” ระบุว่า
ภรรยาผมเธอเป็นข้าราชการบำนาญแต่บำนาญเธอน้อยนิด เพราะเธอลาออกจากราชการตอนอายุ 50 ปีต้นๆ
2-3 วันมานี้ เธอหงุดหงิดกับเรื่องที่มีการอภิปรายว่าจะตัดบำนาญข้าราชการ เธอบังคับให้ผมแสดงความเห็น ผมถามว่า ส.ส.เขาพูดว่าอย่างไรล่ะ เธอบอกว่า จะตัดบำนาญข้าราชการ ผมถามต่อว่าเธอฟังเองหรือเปล่า เธอบอก ว่าเปล่าๆ เธอได้ยินเขาพูดกันมา
ผมว่า ถ้าไม่ได้ยินเองก็ไปหาคลิปมาฟังหรือไปอ่านประโยคที่เขาพูดก่อน อย่ามาถามผมเรื่องที่เขาพูดกันโดยตัวเองไม่ได้ฟัง
ส่วนผมเองก็ไม่ได้ฟังว่าเขาพูดว่าอย่างไร เพราะผมไม่ค่อยฟังการอภิปรายในสภาแล้ว บำนาญยังไงก็ยกเลิกไม่ได้หรอก มันเป็นสิทธิของข้าราชการที่ติดตัวมาตั้งแต่วันแรกของการเป็นข้าราชการ มันเป็นกติกาสากลทั่วโลกของข้าราชการ
ผมพูดแค่นี้ได้เรื่องเลย เธอสวนกลับว่า เธอ(หมายถึงผม) ก็เป็นอดีตส.ส. ก็มีบำนาญนี่ ถ้าเขาตัดบำนาญเธอ เธอจะว่าอย่างไร
ผมว่า ของผมเขาเรียกกองทุนเลี้ยงชีพ เขาหักจากเงินเดือนส.ส.เดือนละ 3,000 บาททุกเดือนตั้งเป็นกองทุน เดิมเขาให้มากกว่านี้ แต่พอ พลเอกประยุทธ์ ยึดอำนาจ พลเอกประยุทธ์ ท่านเกลียดนักการเมือง ท่านลดลงเหลือนิดเดียว ผมได้เพียงเดือนละ 21,400 บาท ซึ่งผมจัดอยู่ในกลุ่มอดีตสส.ที่ได้เยอะ เพราะเป็นส.ส.นาน
ผมจัดอยู่ในกลุ่มที่เป็นส.ส.16-20 ปี ซึ่งน้อยคนจะเป็นนานขนาดนี้ ส.ส.ทั่วไปเป็นไม่น่าจะเกิน 2-3 สมัย ก็ได้ไม่กี่ตังค์ และเขาให้เพียง 2 เท่าของเวลาที่เป็นส.ส. เท่านั้น
ผมว่าปีหน้า อดีตส.ส.ก็คงถูกงดการจ่ายกองทุนเลี้ยงชีพกันเยอะ เหลือไม่กี่คนหรอก (ก.ม.นี้ออกปี 2558 หลังยึดอำนาจ)
ผมว่าเราจะทะเลาะกันเรื่องนี้ทำไม ต่างคนต่างไม่ได้ยินที่เขาอภิปรายว่าเขาหมายความว่าอย่างไร
กองทุนเลี้ยงชีพผม 21,400 บาท ถ้าจะตัดก็ตัดไปเถอะ เดือนที่แล้วผมไถ่เครื่องมือประกอบอาชีพให้ชาวบ้านที่โรงรับจำนำมากกว่ากองทุนฯ ที่ผมได้รับเสียอีก
ผมถามว่าส.ส.คนไหนอภิปรายเรื่องนี้ล่ะ เธอว่า ส.ส.พิธา พรรคก้าวไกล นี่ถ้าผมมีเบอร์ผมจะโทรไปถามว่าท่านส.ส.อภิปรายว่าอย่างไรล่ะ จึงทำให้ภรรยากับผมทะเลาะกัน